รวบแล้วมือมีดไล่ฟันวัยรุ่นในเอื้ออาทรวัดกู้ 2 พร้อมนำตัวทำแผน สารภาพสาเหตุหึงหวงเห็นข้อความในแชทของแฟนสาว
จากกรณีที่ นายจักรกฤษ ปานพิพัฒน์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 343/12 หมู่11 ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี ขี่จยย.ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน ขี่หนีชายวัยรุ่นไล่ทำร้าย จนเกิดเสียหลักพุ่งชนจยย.ของวินรับจ้าง ก่อนเสียหลักพลิกคว่ำจนถูกชายวัยรุ่นฟันเข้าที่แขนและขาซ้ายได้รับบาดเจ็บ บริเวณอาคารที่ 40 ภายในโครงการบ้านเอื้ออาทร2 ซอยอัมพรไพศาล ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนถูกนำส่งรพ.ชลประทาน ปากเกร็ด เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมากระทั่งชุดสืบสวนสภ.ปากเกร็ด สืบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุคือนายคณิณหรืออ้น กุลธร อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/5 หมู่1 ต.วังหว้า อ.แกลง จ.ระยอง ปัจจุบันพักอยู่กับพี่สาว ซอยอัมพรไพศาล ซอย18 อยู่ละแวกที่เกิดเหตุ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป
ข่าวน่าสนใจ:
ต่อมา เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่16 ธ.ค. นายคณิณ เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ผกก.สภ.ปากเกร็ด โดยให้การรับสารภาพว่าสาเหตุที่ลงมือทำร้ายร่างกายนายจักรกฤษเกิดจากความหึงหวงที่นายจักกฤษแอบมาคบกับน.ส.เบนซ์ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี แฟนสาว ที่เพิ่งคบกันมาได้กว่า 1 เดือน โดยวันเกิดเหตุตนจับได้ว่านายจักรกฤษกับแฟนสาว ซึ่งพักอยู่อาคารที่ 95 ได้นัดคุยกันผ่านทางโซเชียลให้นายจักรกฤษมารับที่อาคาร 95 จึงมาดักรอเพื่อทำร้าย พอนายจักกฤษมาถึงจึงได้ถือมีดยาวตรงจะเข้าไปทำร้ายแต่นายจักรกฤษขี่รถหนี จึงไล่ติดตามไปก่อนที่นายจักรกฤษจะไปเกิดอุบัติเหตุชนกับรถจยย.วินรับจ้างจนรถเสียหลักล้ม ด้วยความหึงหวงและโกรธแค้นจึงตรงเข้าไปฟันจนนายจักรกฤษได้รับบาดเจ็บ จากนั้นจึงหลบหนีเดินทางไปหลบซ่อนอยู่ที่บ้านแม่ใน อ.ควนกาหลง จ.สตูลก่อนตัดสินใจเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ
ต่อมาเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.พงศ์จักร ได้ควบคุมตัวนายคณิณไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ทั้งนี้ นายคณิณ กล่าวว่า” อยากจะขอโทษไปยังคู่กรณีว่าเป็นเพราะความหึงหวงทำให้ไม่มีความยับนั้งชั่งใจที่ทำไปแบบนั้น หากย้อนเวลาได้จะไม่คิดทำแบบนี้ ” จากนั้นจึงควบคุมตัวกลับโรงพักทันที ทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและพกพาอาวุธมีดไปในหมู่บ้านหรือเมืองหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรและทำให้เสียทรัพย์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: