ช่างอู่แท็กซี่ดื่มมาเพียบขับรถลากจูงกันมาเสียหลักหมุนเบียดเก๋งจนพลิกคว่ำคนขับหญิงวัย 58 ปีเจ็บ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจวัดแอลกอฮอล์ช่างอู่แท็กซี่สูงเฉียด 300 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 30 ธ.ค.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถเก๋งพลิกคว่ำและมีผู้บาดเจ็บ เหตุเกิดหน้าปั๊มน้ำมันเชลล์ ถนนชัยพฤกษ์ขาออก ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อ นิสสัน สีบรอนซ์-ทอง ทะเบียน ภค 2611 กทม สภาพพลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้า อยู่กลางถนนโดยมีน.ส.รัชนีกร หนูเผือก อายุ 58 ปีเป็นคนขับได้รับบาดเจ็บมีพลเมืองดีช่วยเหลือออกมาจากตัวรถแล้ว โดยทางกู้ภัยเร่งนำตัวคนเจ็บส่ง ร.พ.วิภาราม ปากเกร็ด เนื่องจากเริ่มมีอาการหายใจไม่ออกซึ่งมีโรคประจำตัวเป็นโรคความดัน ขณะเดียวกันที่เกิดเหตุยังพบคู่กรณีเป็นรถแท็กซี่ สีชมพู ยี่ห้อ โตโยต้า อีกจำนวน 2 คันจอดขวางอยู่กลางถนนมีร่องรอยความเสียหายบริเวณด้านหน้าและข้างรถ
จากการสอบถามนายสวัสดิ์ อัตพงษ์ อายุ 49 ปีคนที่ขับรถแท็กซี่ซึ่งมีอาการคล้ายเมาสุรากล่าวว่าตนเองเป็นช่างประจำอู่แท็กซี่ ก่อนหน้าตนเองกับเพื่อนร่วมงานได้มาทำการลากรถแท็กซี่อีกคันหนึ่งที่เสียจากซอยวัดกู้เพื่อกลับอู่ย่านเขต ต.บางศรีเมือง โดยตนเองเป็นคนขับรถลากจูง ในขณะมาถึงที่เกิดเหตุมีรถ จยย.ตัดหน้าทำให้ตนเองต้องเบรกและหักหลบเป็นเหตุให้รถเกิดเสียหลักไปเฉี่ยวชนกับรถเก๋งที่ขับอยู่เลนกลางจากนั้น รถตนเองก็หมุนเคว้งจำอะไรไม่ได้ขณะเดียวกันกล้องวงจรปิดของทางปั๊มน้ำมันสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้โดยพบว่ารถแท็กซี่ทั้ง 2 คันลากจูงกันมาด้วยคามเร็วในช่องเลนซ้ายจากนั้นรถเกิดเปลี่ยนเลนไปในช่องทางกลางไปเฉี่ยวชนกับรถเก๋งทำให้รถเก๋งเกิดเสียหลักพลิกคว่ำดังกล่าว ต่อมาหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายของนายสวัสดิ์พบว่าสูงถึง 287 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงได้นำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
