2 คนร้ายประกบยิงนักเรียนเทคนิค ขณะที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน อีกทั่งคนร้ายขโมยกระเป๋าเงินและโทรศัพท์ไปดัวยผู้เสียชีวิตไปด้วย ขณะที่ตำรวจตั้งสาเหตุไว้ 2 ประเด็น
เวลา 01.30 น.วันที่ 24 ก.พ.65 ร.ต.อ.รุ่ง เลี่ยมโคกสูง รอง สว.สอบสวน สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ มีผู้เสียชีวิต ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ที่ถนนไทรน้อย-ต้นเชือก ฝั่งขาเข้า หน้าโรงเรียนมัธยมไทรน้อย ม.5 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาพ.ต.อ.สมชาย ขำสัจจา ผกก.สภ.ไทรน้อย พ.ต.ต.เรวัตสุริยะ สว.สส. พ.ต.ต.ธนวัฒน์ ชีวิตโสภณ สวป.พร้อมชุดสืบสวนทราบ แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบศพ นายภานุเดช (หรือเต้) อายุ 17 ปี อยู่ในชุดนักศึกษา วิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่งชั้น ปวช ปี 2 ช่างไฟฟ้า สภาพศพนอนหงาย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด ที่ขมับด้านขวา 1 นัด ที่หมวกกันน็อก มีรูกระสุนปืน 1 รู ข้างตัวมีพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ-เทา ทะเบียน 1 กง 156 นนทบุรี ล้มอยู่ ที่กระเป๋ากางเกงมีลักษณะร่อยรอยถูกล้วงออกมาด้านนอก
สอบถามนายเอกพล (หรือ เปา) อายุ 17 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิตเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุไปนั่งกินหมูกระทะกับกลุ่มเพื่อนกัน 7 คนที่บ้านเพื่อนอยู่ทางเข้าวัดมะสงฆ์ ห่างจากจุดเกิดเหตุ 3 ก.ม.ต่อมาเวลา 01.20 น.ได้ขับขี่รถ จยย.ออกมาเพื่อจะกลับบ้าน ระหว่างทางมาถึงบริเวณสี่แยก คลองเจ้า สวนกับรถ จยย.ของผู้ก่อเหตุเป็นชาย 2 คนสวมหมวกกันน็อคที่สี่แยกเข้าคลองเจ้า คนร้ายทั้ง 2 คน วนรถกลับขับตามมาประกบ รถของ นายภานุเดช ที่ขี่อยู่ด้านหลังจนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด จึงหันกลับมามองดู พบว่าเพื่อนลงไปนอนอยู่กับพื้นถนนแล้ว โดยผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คนลงไป ค้นสิ่งของในกระเป๋ากางเกงของเพื่อน ตนจึงวิ่งไปหลบที่ร้านสะดวกซื้อหน้าวัดไทรใหญ่ หลังจากคนร้ายขับรถ จยย.ออกไปแล้วจึงวิ่งมาดูพบว่าเพื่อนเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบ
น.ส.บี นามสมมุติ อายุ 17 ปี เพื่อนกล่าวว่า ระหว่างที่นั่งกินหมู่กระทะกันอยู่นั้นก็ไม่ได้มีเรื่องทะเลาะกันกับใคร ยังสนุกสนานเฮฮา กันอยู่เลย แล้วนำคลิปที่ถ่าย นายภานุเดช มาให้ดู ก่อนที่จะมาถูกยิงเสียชีวิต
ทางด้าน พ.ต.อ.สมชาย ขำสัจจา ผกก. กล่าวว่า จากการสอบสวน ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นนักศึกษา คนร้ายที่ก่อเหตุมากัน 2 คน ขับขี่รถ จยย. ตามประกบมา สวนสาเหตุ ตั้งไว้ 2 ประเด็น คือประสงค์ต่อทรัพย์ หรือคู่อริ ต่างสถาบัน จึงให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ออกตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้ที่เกิดเหตุและตามเส้นทางเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
