แม่ลูกร้องสื่อ ต้องหามสามีป่วยติดเตียงทำเรื่องโอนบ้าน สุดท้ายรอนานอาการทรุดหนัก
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนาง สุทธิรัก แซ่ตั้ง อายุ 62 ปี และน.ส.กฤตพร หลวงปราบ อายุ 20 ปี สองแม่ลูก ว่าตนได้ผ่อนชำระบ้านเอื้ออาทร วัดกู้ 2 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี แต่เนื่องจากนายปฎิวัต หลวงปราบ อายุ 53 ปีสามี เป็นผู้ป่วยติดเตียง ตนและลูกสาวได้ไปที่สำนักงานการเคหะแห่งชาติ เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่การเคหะทราบว่าสามีเป็นผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถเดินทางไปทำธุระกรรมการโอนกรรมสิทธิ์ได้ ขอทำเป็นหนังสือมอบอำนาจแทนได้หรือไม่ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่ได้ต้องนำเจ้าตัวมาเอง
ต่อมาวันที่ 26 ก.ค.65 เป็นวันครบกำหนดที่จะต้องไปทำเรื่องโอนบ้านที่สำนักงานกรมที่ดินแต่ปรากฎว่ารถรับจ้างที่นัดไว้ติดต่อไม่ได้ ทำให้ไม่มีรถไป ตนต้องขอความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยพาไปส่งที่สำนักงานกรมที่ดินเมืองทองธานี ทำให้ไปช้า พอไปถึงได้ช่วยกันพาสามีนั่งรถเข็นเข้าไปทำเรื่องโอนบ้าน ตนได้แจ้งบอกกับทางเจ้าหน้าที่ว่าพาสามีมาถึงแล้ว ขอให้เซ็นชื่อเพื่อจะได้พาสามีกลับ ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าให้รอก่อนเนื่องจากมีคนมาทำธุระกรรมเยอะ ตนกับลูกสาวและสามีต้องรอนานกว่า 3-4 ชั่วโมง จึงร้องขอให้ช่วยทำให้ก่อนเพราะสามีอาการเริ่มแย่ลง เพราะนั่งรถเข็นนานมากเกินไป จนมีอาการไอและความดันลดลง ค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ ตนกับลูกสาวได้โทรศัพท์แจ้งกู้ภัยให้มาช่วยเหลือนำตัวส่งร.พ.กรมชลประทาน เร่งด่วน
น.ส.กฤตพร กล่าวว่า วันนั้นต้องไปทำธุรกรรมเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของการเคหะเอื้ออาทร (วัดกู้2) อ.ปากเกร็ด ให้กับคนที่ซื้อต่อ โดยนัดไปทำธุรกรรมที่สำนักงานกรมที่ดินเมืองทองธานี โดยทางเจ้าหน้าบอกว่าต้องพาคนที่มีชื่อเป็นผู้ครอบครองคือพ่อมาเซ็นต์สัญญาด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้เราได้แจ้งไปว่าพ่อป่วยติดเตียงไม่สะดวกในการเดินทางแต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอม จึงต้องพาพ่อไปแต่รถที่นัดไว้ไม่มารับตามที่นัดพวกเรา จึงขอให้รถกู้ชีพให้มารับ เมื่อไปถึงทางเจ้าหน้าที่ให้รอเซ็นต์เอกสาร เนื่องจากมีคนมาติดต่อราชการเยอะ เรารอนานหลายชั่วโมงจนพ่อเริ่มอาการไม่ดี มีการไอที่รุนแรง หายใจไม่ออก ชีพจรเริ่มตำ่ทางคนรถกู้ชีพได้ประสาน 1669 ให้มารับตัวพ่อไปส่ง รพ.
เมื่อไปถึงรพ.เจ้าหน้าได้นำตัวเข้าห้องฉุกเฉินทันที แล้วอาการของพ่อก็ทรุดลง เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้โทษเจ้าหน้าที่ที่ดินเพราะเห็นใจเนื่องจากมีประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก แต่เรื่องนี้อยากจะให้แก้ไขให้เป็นระบบมากกว่านี้ น่าจะจัดช่องบริการสำหรับคนพิการโดยเฉพาะ เพื่อผู้พิการจะได้ไม่ต้องรอนาน ขอยกเคสพ่อเป็นตัวอย่าง จากคนที่ป่วยไม่หนักมากกลับต้องมานอนที่รพ.ต้องเจาะคอให้อาหารทางสายยาง จากที่พูดคุยกันได้ก็ไม่สามารถพูดคุยได้
น.ส.กฤตพร กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่กรมที่ดินที่ทำเรื่องก็ได้ติดต่อเข้ามาขอโทษ ซึ่งเราไม่ได้โกรธหรือต้องการเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ แต่ที่ร้องสื่อเพราะต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงระบบให้ดีกว่านี้ ไม่เฉพาะกับคนพิการอย่างเรา คนปกติทุกคนเขาก็ต้องการให้มันดีกว่านี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: