สาวนักศึกษาแจ้งความถูกช่างประจำคอนโดพยายามข่มขืน ขณะทางด้านช่างหนุ่มยันไม่ได้ข่มขืน แท้จริงแล้วแอบคบกันอยู่เจ้าตัวรู้ดี
จากกรณีที่นักศึกษาสาวนำภาพกล้องวงจรปิดเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายฐิติวัฒน์ ช่างประจำคอนโดแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง พยายามจะใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืน เหตุเกิดคืนวันที่19 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น.
โดยน.ส.น้ำ ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า ขณะที่ตนเองกำลังจะเดินเข้าห้องพัก นายฐิติพัฒน์ คนก่อเหตุได้เดินตามมา เมื่อถึงหน้าห้องขณะที่ตนกำลังจะเข้าห้อง นายฐิติพัฒน์ ได้ดันตนเข้าไปในห้อง หลังจากนั้นก็บังคับให้ถอดเสื้อผ้า และพยายามจะใช้กำลังข่มขืน ต่อมาเพื่อนของตนที่มาส่งเกิดความสงสัยจึงเดินตามขึ้นมาดู ก็พบว่าตนกำลังถูกทำร้าย จึงได้เข้าข่วยเหลือ ทำให้นายฐิติพัฒน์ วิ่งหลบหนีไป
ภาพกล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะที่ น.ส.น้ำ เดินเข้าลิฟท์พร้อมกับนายฐิติพัฒน์ ขณะที่น.ส.น้ำกำลังคุยโทรศัพท์นายฐิติพัฒน์มีการกหยอกล้อโดยชกลมเล่น เมื่อถึงชั้น 8 หลังนายฐิติพัฒน์ได้เดินตามหลัง น.ส.น้ำ ไปพร้อมกับเต้นไปด้วย เมื่อถึงหน้าห้องนายฐิติพัฒน์เปิดห้องได้แล้วและกำลังจะเดินกลับ พร้อมกับยกมือโบกลา จากนั้นมีการพูดคุยกันนายฐิติพัฒน์ได้เดินไปเปิดประตูแล้วตรงเข้าไปกอด น.ส.น้ำ ลักษณะดึงตัวเข้าไปในห้อง ต่อมามีชายสองคนเดินมาที่ห้องของ น.ส.น้ำ โดยหนึ่งในนั้นน่าจะเป็นเพื่อนชายของ น.ส.น้ำ ซึ่งเป็นจังหวะที่นายฐิติพัฒน์เปิดประตูออกมา แล้วมีการพูดคุยกันอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะแยกกัน
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 30 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่คอนโดแห่หนึ่งย่านบางบัวทอง และได้ติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์ ไปยัง น.ส.เนย พี่สาว และน.ส.น้ำ อายุ 18 ปี แต่ทั้งสองปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลใดๆ โดยอ้างว่าไม่สะดวกและมีอาการเครียด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าพบ นายฐิติพัฒน์ (หรือเฟียส) อายุ 30 ปี ผู้ถูกกล่าวหา และนางแอล อายุ 25 ปีภรรยา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี โดยนายฐิติพัฒน์ หรือเฟียส เปิดเผยว่า เมื่อวันเกิดเหตุ น.ส.น้ำ เดินมาตนที่ห้องนิติเพื่อให้ไปเปิดประตูให้ โดยอ้างว่าลืมคีย์การ์ด ตนก็เดินไปเปิดให้ตามปกติ ซึ่งก็เห็นว่ามีการหยอกล้อกันเล่น ตามประสาคนคุ้นเคย ซึ่งตนยอมรับว่าตนและน.ส.น้ำ เคยมีอะไรกันมาก่อน ซึ่งภรรยาตนเคยจับได้มาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากทราบข่าวว่าน้องเขาไปแจ้งความตนจึงรีบสารภาพกับภรรยาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
นายฐิติพัฒน์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุพูดตามตรงตนก็คิดว่าจะมีอะไรกับน้องเขาจริงๆ แต่น้องเขาบอกว่าแฟนเขากำลังจะมา ตนจึงยอมออกมาจากห้อง กระทั่งเดินสวนกับแฟนน้องเขาตรงประตูพอดี ตนไม่เคยใช้กำลังกับน้องเขาที่เห็นโอบเอวดึงเข้าห้องก็หยอกกันแบบนี้ประจำ ห้องน้องตนก็เข้าไปประจำไปให้อาหารปลาเวลาที่เขาไม่อยู่ ซึ่งวันเกิดเหตุตนเข้าไปในห้องประมาณ 5-10 นาทีเอง จะเอาเวลาที่ไหนไปถอดเสื้อผ้าน้องเขา และถ้าตนข่มขืนน้องเขาดูจากกล้องวงจรปิดเสื้อผ้าน้องเขา เสื้อผ้าตนก็อยู่ในสภาพปกติ น้องเขาเองที่บอกว่าให้ตนขึ้นไปหาใหม่หลังจากแฟนไปแล้วจะได้ทำเนียนๆ น่าจะกลัวแฟนรู้
นายฐิติพัฒน์ กล่าวต่อว่า ตนยืนยันว่าวันเกิดเหตุตนไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับน้องเขา พอเขาแจ้งความว่าถูกข่มขืนครอบครัวตนเดือดร้อน ตนต้องถูกพักงาน แล้วตนก็ไม่เคยคิดหนีเพราะตนไม่ได้ทำอะไรเขา หลังจากเขาแจ้งความวันที่ 20 ส.ค. ตนก็รีบเข้าไปพบตำรวจในวันที่ 22 ส.ค.ทันทีโดยนัดให้น้องเข้าไปสอบปากคำและยืนยันกับตำรวจ แต่น้องเขาไม่ยอมเข้าไป ซึ่งตนให้การกับตำรวจตามที่เล่ามาว่าเป็นกิ๊กกันมาก่อน ตำรวจยังแปลกใจว่าสองฝ่ายให้การไม่ตรงกัน หลังจากตนให้การเสร็จตำรวจก็ปล่อยตัวกลับมาโดยไม่ต้องประกันตัว ตนไม่กลัวความผิดเพราะไม่ได้ข่มขืนน้องเขา ขอให้ว่ากันไปตามหลักฐาน ตนไม่ทราบว่าน้องเขาต้องการอะไร
นางแอล ภรรยานายเฟียส กล่าวว่า ก่อนหน้านี้สามีตนกับน.ส.น้ำเคยเป็นกิ๊กกัน มีความสัมพันธ์กันมาประมาณ 2 เดือนแล้ว จนตนจับได้โดยตนมีแชทที่แคปหน้าจอไว้เป็นหลักฐาน ตนยืนยันได้ หลังจากเขาไปแจ้งความสามีได้มาสารภาพกับตนว่าน.ส.น้ำทำแบบนี้ ตนจึงมาทราบว่าเขาสองคนยังไม่เลิกกิ๊กกันก็เสียใจนะ น.ส.น้ำและพี่สาวเขาก็รู้ว่าเฟียสมีภรรยามีลูกแล้ว ทุกคนในคอนโดรู้หมดเพราะตนและลูกไปที่คอนโดบ่อย บางทีก็ช่วยทำหน้าที่จ่ายพัสดุน.ส.น้ำก็รู้ โดยข่าวที่ออกไปตอนนี้ครอบครัวเดือดร้อน ทางบริษัทพักงานสามี ระงับการจ่ายเงินเดือน ตนอยากให้สังคมอย่าฟังความข้างเดียว อย่าเพิ่งเสพข่าวแล้วเชื่อไปก่อน ให้ฟังข่าวทั้งสองฝ่าย ว่าเรื่องไหนจริงหรือไม่จริง ตนก็อยากให้น้องเขาพูดความจริงไปให้ข่าวแบบนั้น สร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวตน
