รุดช่วยหญิงวัย 50 ปีติดเกาะกลางน้ำบ่อดินร้างปริศนามา 5 วัน ผู้ใหญ่บ้านเผยประวัติไม่ธรรมดาก่อคดีลักทรัพย์เพียบ กลัวเจ้าทุกข์รุมทำร้ายเลยหนีไปอยู่เกาะ
จากกรณีที่ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวหาทางช่วยเรื่องหญิงสาวรายหนึ่งที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่า ทำไมถึงไปติดเกาะในบ่อดินร้างเก่าที่ล้อมรอบไปด้วยน้ำพื้นที่กว้าง 325 ไร่ หลังหญิงสาวคนดังกล่าวตะโกนขอความช่วยเหลือกับคนงานก่อสร้างของหมู่บ้านแห่งหนึ่งให้ข้ามมาช่วยเหลือ
วันที่ 31 ส.ค.65 เมื่อเวลา 15.30 น. นายวสันต์ ขาวสงค์ ปลัดอำเภอบางใหญ่ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดง และ น.ส.โสรยา ภูมิกระจาย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 ต.บางบัวทอง เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมกับนำเรือไฟเบอร์เพื่อเตรียมเข้าให้ความช่วยเหลือหญิงสาวคนดังกล่าว แต่ก่อนที่ปลัดอำเภอบางบัวทองจะกำลังพร้อมเรือไปช่วยเหลือหญิงคนดังกล่าว ปรากฎว่ามีชายบุคคลปริศนา 2 คนได้พายเรือไปรับตัวหญิงคนดังกล่าวออกมาจากเกาะกลางน้ำก่อนที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจะไปถึงได้ไม่นาน โดยมีพยานเป็นคนงานก่อสร้างที่เหตุการณ์ระหว่างที่มีชาย 2 คน พายเรือไปรับตัวหญิงคนดังกล่าวออกจากเกาะไปแล้ว
น.ส.โสรยา ภูมิกระจาย ผู้ใหญ่หมู่ 11 เปิดเผยว่า หญิงสาวคนดังกล่าวคือ น.ส.อุ้ย อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งเป็นคนมีประวัติติดยาเสพติดและก่อเหตุลักเล็กขโมยน้อยเป็นประจำจนเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้านในชุมชน จนต่อมาตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านเมื่อ 5 วันที่แล้วว่า นางอุ้ยได้หลบหนีเจ้าทุกข์รายหนึ่งไปโดยการให้เรือไปส่งหลบซ่อนตัวอยู่ที่เกาะกลางน้ำเพราะเกรงว่าจะถูกเจ้าทุกข์จับตัวได้แล้วรุมทำร้าย เนื่องจากไปก่อเหตุลักทรัพย์อีกครั้งจนทำให้มีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ประกาศตามล่าตัวนางอุ้ยจากพฤติกรรมดังกล่าว
ทางด้านลุงดำ คนหาปลาในละแวกบึงแห่งนี้ กล่าวว่า ตนเพิ่งมาสังเกตเห็นว่ามีคนไปอาศัยอยู่บนเกาะเมื่อสัก 2 วันที่ผ่านมา โดยเมื่อเช้านางอุ้ยก็เพิ่งตะโกนมาขอความช่วยเหลือจากตนให้ช่วยพาออกจากเกาะที แต่ตนไม่มีเรือจึงไม่สามารถไปช่วยเหลือนางอุ้ยได้ แต่บนเกาะกลางน้ำนั้นมีเพิงพักที่ตนสร้างเอาไว้เป็นที่พักเอาไว้เวลาออกไปหาปลาในบึง มีข้าวสารมีอาหารแห้งอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งพอประทังชีวิตไปได้หลายวัน โดยเพิงพักดังกล่าวใช้เป็นที่หลบแดดหลบฝนได้พอสมควร และหากจะเดินทางไปกลับที่เกาะนี้ต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียวเพราะเป็นเกาะกลางน้ำ และระดับน้ำก็ลึกมากเนื่องจากเคยเป็นบ่อดินเก่าที่ขุดเอาหน้าดินไปขายมานานนับสิบๆ ปีแล้ว จนปัจจุบันกลายเป็นพื้นที่บึงขนาดใหญ่ที่ใช้กักเก็บกักทำเกษตรและประมง
ทางด้านนายวสันต์ ขาวสงค์ ปลัดอำเภอบางบัวทองกล่าวว่า ในเบื้องต้นยังไม่ทราบข้อเท็จจริงที่แน่ชัดว่านางอุ้ยข้ามไปอยู่อาศัยที่เกาะกลางน้ำได้อย่างไรหรือมีใครนำตัวไปปล่อยไว้ที่นั้นก็ตาม เมื่อทางอำเภอทราบข่าวจึงได้กำลังพร้อมเรือเพื่อเตรียมมาให้ความช่วยเหลือ จนกระทั่งมาทราบว่ามีคนพายเรือไปช่วยนางอุ้ยออกจากเกาะแห่งนี้ไปแล้วก่อนที่ทางอำเภอจะมาถึง ตนจึงได้กำชับให้ทางผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนช่วยกันตรวจตราดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก ไม่ว่านางอุ้ยจะไปก่อเหตุกระทำความผิดอะไรมาก็ตาม ก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายไป แต่การข่มขู่ไล่ล่าจะทำร้ายร่างกาย หรือจะมีการนำตัวไปปล่อยทิ้งกลางเกาะเพื่อดัดนิสัยในลักษณะนี้เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องผิดกฎหมาย เพราะหากนางอุ้ยเกิดเสียชีวิตขึ้นมาจากการถูกนำตัวไปปล่อยเกาะ ก็กลายเป็นความผิดในคดีอาญาตามมาอีก จึงไม่อยากให้ชุมชนหรือใครก็ตามไปไล่ล่ากดดันหรือลงโทษด้วยวิธีการแบบนี้ หากนางอุ้ยกระทำความผิดในเรื่องใดก็ต้องส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในความผิดเรื่องนั้นไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: