อดีตภารโรงโรงเรียนผูกคอดับปริศนาคาบ้าน ขณะที่ภรรยามีบาดแผลที่ศีรษะเลือดท่วมตัวเจ้าตัวเผยบาดแผลที่พบไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 1 ก.ย.65 ร.ต.ท.จุติพัชร ทิพย์พา หน รอง สว.สอบสวน สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีเหตุผูกคอเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 34/2 หมู่ 5 ซอยบางกร่าง 45 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์รุดเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้นบริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 พบร่างนายวิเชียร เขียวน้อย อายุ 65 ปีอดีตภารโรงโรงเรียนวัดแคในเกษียณอายุแล้ว ใช้เชือกไนลอนสีขาว ผูกคอกับราวบันไดเสียชีวิต ใกล้ตัวยังพบฆ้อน มีด กระเป๋าสตางค์ ไฟฉาย และยาฉีดแก้หอบ วางอยู่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบหาลายนิ้วมือและคราบเลือด
ขณะเดียวกันในบ้านยังพบกับ น.ส.สุรีวรรณ พงษ์สุข อายุ 47 ปีภรรยาผู้เสียชีวิตอยู่ในชุดนอน เลือดท่วมตัว มีบาดแผลที่กลางศีรษะและเหนือใบหูขวารวม 2 แห่งพร้อมกับให้การตำรวจว่า เมื่อช่วงค่ำเมื่อวานนี้ ตนทำกับข้าวทานกับสามีและเข้านอนประมาณ 1 ทุ่มกว่า เพราะตนต้องตื่นตี 3 เพื่ออกไปขายขนมตาลที่วัดโบสถ์ดอนพรหม หลังจากนั้นตนเองทั้ง 2 ก็เข้านอนปกติ จนกระทั่งประมาณตี 2 สามีก็ตามจะไปทำงานไหม ตนบอกว่าไปไม่ไหวตนปวดขาและปวดหัว สามีบอกว่าถ้าไม่ไปทำงานให้อุ่นกับข้าวให้ด้วย และหลังจากนั้นตนเองก็หลับต่อ จนตื่นอีกที 08:35 น. ได้ยินเสียงลูกสาวร้องตะโกนว่าพ่อเลี้ยงผูกคอเสียชีวิต ตนเองจึงรีบลุกและเปิดประตูออกมาจากห้อง จนกระทั่งลูกสาวทักว่าแม่ไปโดนอะไรมาเลือดเต็มตัว ตนไม่ทราบว่าแผลที่ศีรษะไปโดนอะไร ตื่นมารู้สึกปวดหัว และพบว่ามีเลือดเต็มตัวโดยปกติสามีเป็นคนดีมากไม่เคยทำร้ายตน ตื่นเช้ามาสามีจะล้างจานและเตรียมน้ำให้ตนอาบ คอยดูแลตลอด
น.ส.ออมขวัญ อายุ 24 ปี ลูกสาวกล่าวว่าช่วงนี้ไม่ได้นอนที่บ้าน แต่เมื่อเช้าเข้าบ้านมาหลังจากตนเปิดประตูก็พบว่าพ่อผูกคอตายจึงร้องกรี๊ดเสียงดัง จากนั้นแม่ก็เปิดประตูห้องออกมาถามว่าร้องทำไม ตนจึงบอกว่าพ่อผูกคอตายแล้ว ลุงข้างบ้านอยู่ใกล้กันได้ยินก็เดินเข้ามาดู หลังจากนั้นญาติ ๆ ก็โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ในขณะที่แม่เปิดประตูออกมาก็มีเลือดเต็มศีรษะแล้ว
ต่อมานายขวัญชัย อายุ 40 ปี ลูกชายผู้ตายเดินทางมาที่เกิดเหตุ กล่าวว่า หลังจากพ่อปลดเกษียณจากภารโรง โรงเรียนวัดแควัดแคใน มีเงินบำนาญและไม่มีหนี้สิน พ่อมาอยู่กับภรรยาใหม่ก็เริ่มมีหนี้สินจากการกู้ยืม เท่าที่ทราบพ่อมีหนี้เกือบแสนและต้องจ่ายดอกรายวัน เงินเดือนไม่เหลือไม่พอใช้ พ่อเคยบ่นให้ฟังบ่อย จากที่ตนทราบพ่อกับภรรยาใหม่ ได้อยู่กันมาประมาณ 4 ปี มีปัญหากันบ้าง แต่พ่อเป็นคนไม่ค่อยพูด และตนก็ไม่ค่อยเข้ามาที่นี่ ตนสงสัยว่าภรรยาใหม่พ่อมีบาดแผลและมีเลือดเต็มตัวขนาดนั้นทำไมไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมา ส่วนสาเหตุที่พ่อผูกคอเสียชีวิตตนติดใจ แต่พ่อก็เคยบ่นว่าอยากผูกคอตาย
ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบในกระเป๋าสตางค์ ผู้เสียชีวิตพบจดหมายเขียนระบายความในใจว่า “มึงสองแม่ลูกโกงเงินกูไป 93,000 บาท ไอ้อ้นเอาไป 65,000 บาท ไอ้แอมเอาไป 28,000 บาท ไม่ได้คืนเลยสักคนเดียว ยังไม่พอหลอกให้กูไปกู้นอกระบบ มาอีกแสนกว่าบาท เพื่อจะไปเสียค่าน้ำ ค่าไฟ ที่บ้านนี้น้ำไฟจะถูกตัดบ่อยมาก แต่ละงวดเกือบ 2 หมื่นบาท ทั้งต้นทั้งดอกก็ไม่ยอมช่วยส่ง มึงหลอกกูทุกเรื่อง หมดเวรหมดกรรม กันเสียที สำหรับมึงกับกู กูทนกับมึงมานานแล้ว ทั้งรักทั้งแค้น โดยจดหมายดังกล่าวตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่านายวิเชียร ผู้ตาย เครียดเรื่องหนี้สินเงินกู้นอกระบบ ตัดสินใจผู้คอตาย ส่วนบาดแผลที่ศีรษะน.ส.สุรีวรรณ อยู่ระหว่างสอบสวน เนื่องจากยังให้การวกวน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: