พ่อ-แม่ใจสลายลูกชายวัย 15 ปีผูกคอดับในป่า สาเหตุแอบนำเงินพ่อ-แม่ไปลงทุนหวังกำไร กลับถูกหลอกและกลัวความผิดจนคิดสั้น
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 8 ม.ค.66 ร.ต.อ.นิพล ภูธฤทธิ์ รอง สว.สอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีชายผูกคอเสียชีวิตในป่า เหตุเกิดในซอยติวานนท์-ปากเกร็ด 34 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์รุดเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุภายในป่ารกร้างพบร่างของนายอาทิตย์ พวงมาลี อายุ 15 ปีนักเรียนชั้น ม.3 ใช้เชือกไนล่อนผูกคอตัวเองกับกิ่งไม้ โดยยังพบเก้าอี้พลาสติกสีเขียววางอยู่ที่โคนต้นไม้ด้วย รวมถึงโทรศัพท์และจดหมายที่เขียนทิ้งไว้ ระบุข้อความว่า “ ขอโทษแม่ที่แอบขโมยเงินไปแบบนี้ ถ้าอยากรู้เรื่องต่อให้เปิดดูในโน๊ต และไปดูในไลน์ เพราะมันเป็นความโลภของผมเอง” จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐานซึ่งทราบว่าผู้เสียชีวิตพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าใกล้จุดเกิดเหตุห่างออกไปไม่ถึง 50 เมตร
ต่อมาทางญาติได้เปิดดูข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตจากการอ่านข้อมูลในโน๊ตที่ผู้เสียชีวิตบันทึกไว้ระบุข้อความว่า “ ขอโทษแม่กับพ่อด้วย ที่ทำแบบนี้ผมโรภเอง อยู่ไปก็คงไม่ได้มีอะไรดีขึ้นหรอก แต่ถ้าผมตายแล้วให้เข้าไปดูในไลน์ แล้วจับให้ได้ดันข่าวให้เป็นถึงที่สุดเพราะว่าคนแบบนี้มีเยอะเกินไปขอให้เคสผมเป็นเคสที่มีไว้บอกเด็กเป็นอุทาหรณ์นะครับว่าอย่าไปเชื่อคนพวกนี้มาก ละก็ถ้าได้เงินจากพวกมันแล้วก็ขอให้ก็เรียกเก็บเยอะๆ นะแล้วเอาไปซื้อบ้านใหม่”
จากการสอบถามนายสมัย ก้านแก้ว อายุ 64 ปีพ่อเผยว่า ลูกชายหายออกจากห้องพักไปก่อนเที่ยงคืนที่ผ่านมาจนกระทั่งช่วงสายก็ยังตามหาไม่พบจึงตัดสินใจให้แม่เดินทางออกไปแจ้งความ โดยระหว่างนั้นตนเองได้เดินเข้าไปรดน้ำผักที่ปลูกไว้ในป่า ก็พบเห็นลูกยืนอยู่ข้างต้นไม้ยังพูดกับลูกว่ามายืนทำไม่ตรงนี้ ลูกไม่ตอบจึงเดินเข้าไปจับตัวพบว่าตัวลูกนั้นตัวแข็งแล้ว ขณะนั้นถึงกับเข่าทรุดทันทีที่เห็นลูกชายผูกคออยู่กับต้นไม้
น.ส.สุทธินี สวัสดิ์มูล อายุ 22 ปีพี่สาวกล่าวว่าก่อนเวลา 23.00 น.ของคืนที่ผ่านมายังมีการส่งข้อความพูดคุยกันกับน้อง โดยน้องถามตนว่ากลับบ้านไหมตนเองตอบกลับไปว่าไม่กลับ หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรต่อ ในขณะนั้นน้องจะอยู่ห้องคนเดียวพ่อและแม่ออกไปทำงานกันหมด จนมาทราบภายหลังว่าน้องหายออกไปแต่ก็พยายามโทรติดต่อทางโทรศัพท์ โทรติดแต่ไม่รับสาย แต่หลังจากได้อ่านข้อความในโน๊ตที่น้องเขียนไว้รวมถึงเปิดดูไลน์มีการพูดคุยสนทนาถึงได้ทราบว่าน้องได้ถูกหลอกให้ลงทุน และมีผลกำไรที่สูงคืนมา โดยลักษณะให้น้องโอนเงินก่อน จนน้องหลงเชื่อเอาเงินจากบัญชีคุณแม่โอนเข้าบัญชีของน้องก่อนที่จะโอนต่อไปให้กับบุคคลดังกล่าวโดยพบสลิปยอดเงินครั้งสุดท้ายที่โอนไปจำนวน 11,973.71 บาท จนสุดท้ายน้องคงรู้ว่าถูกหลอก จึงส่งข้อความตัดพ้อพร้อมกับรูปเชือกไนล่อน ไปให้กับบุคคลที่สนทนาด้วย ซึ่งเหตุการณ์นี้น้องถูกหลอกให้โอนเงินไปภายในวันเดียวประมาณ 14,000 บาท
น.ส.สุทธินี ยังบอกต่ออีกว่าอยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดอยากให้เคสของน้องเป็นเคสสุดท้ายไม่อยากให้ไปเกิดกับใครอีก ซึ่งอนาคตของน้องยังไปได้อีกไกลความฝันน้องอยากมีเงินและมีบ้านแต่สุดท้ายต้องมาจบชีวิตแบบนี้
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบปากคำพ่อ-แม่และพี่สาวไว้พร้อมกับเก็บหลักฐานที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์รวมถึงจดหมายที่เขียนทิ้งไว้ตรงจุดเกิดเหตุ โดยสันนิษฐานว่าผู้เสียชีวิตน่าจะกลัวความผิดที่นำเงินของพ่อแม่ไปลงทุนและถูกหลอกไม่ได้เงินคืนกลับมา จึงตัดสินใจแอบไปผูกคอตัวเองในป่าใกล้ที่พักจนเสียชีวิตดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิตเพื่อชันสูตรต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: