X

นนทบุรี กรมชลประทาน จัดงานเสวนา “ได้”หรือ “เสีย” โครงการผันน้ำยวม

กรมชลประทาน เปิดเวทีเสวนารับฟังความคิดเห็นโครงการผันน้ำยวม  นักวิชาการชี้มีประโยชน์มากกว่าเสีย เพิ่มพื้นที่ในการปลูกข้าวในฤดูแล้ง 1.6 ล้านไร่ ช่วยผลักดันน้ำเค็ม ผลิตพลังงานไฟฟ้าเขื่อนภูมิพลเพิ่มเฉลี่ย 417 ล้านหน่วย

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 15 มีนาคม ที่หอประชุมชูชาติ กำภู สถาบันพัฒนาการชลประทาน กรมชลประทานอ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี กรมชลประทาน จัดงานเสวนา “ได้”หรือ “เสีย” โครงการผันน้ำยวมเปิดทุกมุมมอง ตอบทุกประเด็น เป็นเวทีกลางเปิดกว้างพร้อมรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน ทั้งนักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากสาขา ตัวแทนจากภาคเกษตรกร โดยมีการการถ่ายทอดสด ผ่านช่องทางออนไลน์ในเว็บไซต์ของกรมชลประทาน ให้ประชาชนสามารถร่วมรับชมและสอบถามแบบได้สดๆ

โดยในเวทีเสาวนาได้มีการพูดถึง การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล หรือโครงการผันน้ำยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าจะสามารถช่วยสร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทยอย่างไร รวมทั้งยังเป็นเวทีในการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เพื่อได้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วนและถูกต้อง จากผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ และตัวแทนภาคเกษตรกรมาร่วมให้ความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนมุมมอง เกี่ยวกับโครงการนี้ได้แก่ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต, รศ.ดร.บัญชา ขวัญยืน อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมชลประทาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, รศ.ดร.เดช วัฒนชัยยิ่งเจริญ ผู้อำนวยการหน่วยวิจัยและพัฒนาบูรณาการเกษตรและสิ่งแวดล้อมมหาวิทยาลัยนเรศวร, นายพรชัย  กันสิทธิ์  ผู้อำนวยการกลุ่มพื้นที่เฉพาะและโครงการสำคัญ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และนายศรชัย สิบหย่อม ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำ อ.สามง่าม จ.พิจิตร ร่วมเสวนาและตอบคำถาม

แม้ว่าโครงการนี้จะมีประชาชนที่ได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมมากมาย แต่เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่จึงมีผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมาจึงได้มีการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้ครอบคลุมทุกด้าน แต่ยังมีประชาชนในพื้นที่บางส่วนได้รับผลกระทบจากโครงการนี้ ซึ่งยังคงมีข้อห่วงกังวลในหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องมาตรการชดเชยให้กับประชาชนที่สูญเสียที่ดินทำกิน ผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของผู้คนที่อยู่อาศัยโดยรอบพื้นที่โครงการ ความคุ้มค่าในการลงทุนไปจนถึงความโปร่งใสในเรื่อง การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการ สำหรับโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล หรือ โครงการผันน้ำยวมเพื่อสร้างความมั่นคงในเรื่องน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มน้ำปิงและลุ่มเจ้าพระยา แก้ไขและบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ตั้งแต่ด้านท้ายเขื่อนภูมิพลในปัจจุบันและอนาคต สนับสนุนการสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิตตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี พ.ศ. 2561-2580

โดยเวทีเสวนายังระบุอีกว่า โครงการนี้ได้ประโยชน์มากกว่าเสีย สามารถผันน้ำจากแม่น้ำยวมมาเติมอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลได้เฉลี่ยปีละ 1,795.25 ล้านลูกบาศก์เมตร สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมจากผลประโยชน์ด้านการเกษตรได้มากกว่า 17,431 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งยังสร้างประโยชน์ทางตรงและทางอ้อมอีกมากมาย ได้แก่ 1.การเพิ่มพื้นที่ในการปลูกข้าวในฤดูแล้ง จำนวนกว่า 1.6 ล้านไร่ แบ่งเป็น กำแพงเพชร 286,782 ไร่ และเจ้าพระยาใหญ่ 1,323,244 ไร่2.การผลักดันน้ำเค็มในช่วงฤดูแล้ง ลดค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหาน้ำเค็ม 3.เพิ่มการผลิตพลังงานไฟฟ้า ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนภูมิพลเฉลี่ย 417 ล้านหน่วย/ปี และผลิตพลังงานไฟฟ้าท้ายเขื่อนน้ำยวมได้อีก 46.02 ล้านหน่วย/ปี 4. สร้างอาชีพการทําประมงในอ่างเก็บน้ำ มีการเพาะพันธุ์ปลาและปล่อยปลาให้ประชาชนในพื้นที่จับปลาไปบริโภคและสร้างรายได้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น และ 5. ด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ขยายระยะเวลาการท่องเที่ยวในพื้นที่ทะเลสาบดอยเต่า ซึ่งปัจจุบันสามารถประกอบกิจการแพท่องเที่ยวเฉพาะในเดือนที่มีน้ำเท่านั้น ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม–มกราคมแต่เมื่อมีการผันน้ำจะส่งผลให้สามารถประกอบกิจการได้ตลอดทั้งปี ขณะที่บริเวณเขื่อนน้ำยวม – อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล มีการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบ เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจทั้งในส่วนของชุมชนและนักท่องเที่ยว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน