เพื่อนบ้านวอนสื่อประสานหน่วยงานช่วยยายวัย 78 ปี ป่วยติดเตียง เป็นเบาหวานต้องตัดนิ้วเท้า ไร้บัตรประชาชน ไร้สิทธิ์รักษานอนจมกองอึกองฉี่นานกว่า 2 ปี ล่าสุด เจ้าหน้าที่พาตัวยายไปรักษาแล้ว
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 19 พ.ค.66 ที่บ้านไม่มีเลขที่ ซอยสุขาประชาสรรค์ 3 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้การประสานจาก น.ส.สมจิตร สิงห์สุวรรณ อายุ 61 ปี ขอความช่วยเหลือหญิงชราวัย 78 ปี ป่วยเป็นผู้ป่วยติดเตียง เป็นโรคเบาหวาน และไม่มีบัตรประชาชน จึงไม่สามารถเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลได้
ผู้สื่อข่าวจึงได้ประสานน.ส.นวรัตน์ ศักดิ์โชตินนท์ ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ พม.จ.นนทบุรี น.ส.อัยรารวีวรรณ หาญสีหะคชา หัวหน้าสงเสริมและพัฒฒนาอาชีพ ดูแลงานสังคมสงเคราะห์ และน.ส.ชลธิชา บุญสนอง นักพัฒนาชุมชน เทศบาลนครปากเกร็ด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางเข้าตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือ
จากการลงพื้นที่บ้านหลังดังกล่าวพบว่าเป็นบ้านเช่าชั้นเดียว พบยายติ๋ม นอนอยู่ในบ้านตามลำพัง เท้าข้างซ้ายถูกตัดนิ้ว มีแผลขนาดใหญ่เริ่มเน่าที่หน้าแข้งซ้าย ที่ก้นมีแผลกดทับเนื่องจากเดินไม่ได้ เจ้าหน้าที่พยายามสอบถามคุณยายติ๋ม ซึ่งพูดจาได้แต่เหมือนอาการคนเพ้อ ภายในบ้านมีกลิ่นปัสสาวะเหม็นคุ้ง เนื่องจากคุณยายติ๋มจะนอนปัสสาวะและอุจจาระ บนที่นอน ในระหว่างที่ นายรอด ยอดวัฒน์ อายุ สามี 81 ปี ออกไปทำงานเป็นคนสวนที่บริษัทแห่งหนึ่งนอกจากนี้ยังไม่พบเอกสารแสดงตัวตนยายติ๋ม ไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีเลข 13 หลักเพื่อยืนยันตัวตน
สอบถามจากเพื่อนบ้าน น.ส.สมจิตร สิงห์สุวรรณ อายุ 61 ปี ทราบว่า ยานติ๋มนอนป่วยแบบนี้มานานประมาณ 3 ปีแล้วเนื่องจากป่วยเป็นเบาหวาน และไม่ได้กินยา ทำให้ยายต้องอยู่ในสภาพนี้ นอนฉี่นอนอึเรี่ยราด เพราะไม่สามารถลุกเดินได้ด้วยตัวเอง ครั้งสุดท้ายที่ยายไปหาหมอคือประมาณ 2 ปีแล้ว ต้องตัดนิ้วเท้า นอนรักษาตัวอยู่ 21 วัน มีค่ารักษา 18,000 บาท แต่ยายไม่มีเงินจ่าย ทางเจ้านายของสามียายช่วยค่ารักษา 10,000 บาท ติดค่ารักษาไว้อีก 8,000 บาท สาเหตุเพราะคุณยายไม่มีบัตรประชาชน หลังจากออกจากโรงพยาบาลก็นอนติดเตียงแบบนี้มาตลอด ส่วนค่าใช้จ่ายในบ้านสามีทำงานได้มาบ้าง ชาวบ้านเอามาให้บ้าง ส่วนห้องเช่าสามีเป็นคนจ่ายเดือนละ 1,500 บาท ยังค้างอยู่อีก 500 บาทล่าสุดมีคนใจดีช่วยจ่ายแทนให้แล้ว
น.ส.สมจิตร กล่าวว่า ตอนนี้อยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือให้ยายติ๋ม มีบัตรประชาชนจะได้สามารถรักษาตัวได้ตามสิทธิ์ ยายติ๋มจะได้ดีขึ้น ชื่อจริง นามสกุลจริงตนก็ไม่รู้ สามีคนนี้ก็เป็นสามีใหม่ ไม่รู้ที่มาดั้งเดิมของยาย ลูกยายมี 2 คนเมื่อสมัยก่อนก็มีมาหาบ้าง แต่พอมาแล้วก็มาขอเงินยายกลับ หลังจากยายเข้ารักษาที่โรงพยาบาลไม่เคยเห็นลูกยายมาอีกเลย ตอนนี้ยายไม่ได้ไปหาหมอรักษามา 2 ปีกว่าแล้ว ร่างกายเริ่มทรุดโทรม จะไม่ไหวแล้ว
เบื้องต้นหน่วยงานที่ลงตรวจสอบ พม.จ.นนทบุรี นำเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้ พร้อมทั้งตรวจสอบอาการป่วยซึ่งพบว่าอาการเริ่มหนักเพราะนอกจากเป็นเบาหวาน ติดเตียงแล้ว ยายติ๋มไม่อุจจาระได้มานานกว่า 1 เดือน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่ง รพ.ชลประทานปากเกร็ด เพื่อตรวจร่างกายและทำการรักษา โดยใช้สิทธิ์สังคมสงเคราะห์ ส่วนเรื่อบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่เทศบาลนครปากเกร็ด ได้ทำการตรวจสอบประวัติ พร้อมทั้งสืบค้นหาญาติ เพื่อหาประวัติตัวตนและเลข 13 หลัก เพื่อดำเนินการทำบัตรประชาชนต่อไป
