หายตัวไป 3 วันพบเป็นศพผูกคอตายปริศนาใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้บ้าน ขณะที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพครั้งสุดท้ายได้หายตัวไปเมื่อวันก่อน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 พ.ค.66 พ.ต.ต.สิรวิชญ์ ไชยวรรณ สารวัตรสอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายวันใต้ต้นไม้ใหญ่บริเวณลานดินในซอยทิพย์ไทยทอง 3 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์รุดเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะลานดินกว้างมีต้นไม้ใหญ่ปลูกอยู่ บริเวณโคนต้นไม้พบร่างของนายสนธยา นามวิไลย อายุ58 ปีสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำสภาพนอนหงายขึ้นอืด โดยมีปลายเชือกข้างหนึ่งผูกติดอยู่ที่คออีกด้านหนึ่งลักษณะขาดติดอยู่กับกิ่งไม้ ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ยังพบมีดอีโต้ 1 เล่มและขวดเครื่องดื่มชูกำลังในขวดบรรจุน้ำทินเนอร์ไว้ โดยทางแพทย์เวรตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน
นายภัทรศิลป์ ว่องสกุล อายุ 44 ปี กล่าวว่านายสนธยา เป็นเพื่อนบ้านที่ผมรู้จักมา 20 กว่าปีแล้ว เดิมแกมีบ้านอยู่ในซอยนี้แต่ก็ขายบ้านไป ส่วนตัวแล้วเป็นคนติดเหล้า หลังจากขายบ้านไปแกก็มาขออาศัยอยู่กับผม จนสุดท้ายขายบ้านมาซื้อรถแท็กซี่มาขับ กระทั่งรถแท็กซี่พังเขาก็ขายรถ จากนั้นก็ไปเช่าแท็กซี่ขับได้ระยะหนึ่งรถก็พังเจ้าของอู่ก็มาเอารถคืนไป หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย ปกติแกดื่มเหล้าแล้วก็นอนแต่ครั้งนี้แกหายไปผิดปกติตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านมีกล้องวงจรปิดก็เลยเปิดกล้องดูเห็นแกออกไปจากบ้านเวลาประมาณ 09.00 น. จนวันนี้มีคนโทรไปบอกผมว่าพี่แกเสียชีวิตจึงรีบเดินทางมาดูและให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่
ขณะเดียวกันกล้องวงจรปิดบันทึกภาพช่วงเวลา 08.37 น.ผู้เสียชีวิตเดินถือถุงออกจากบ้านไปก่อนที่จะกลับมาอีกครั้ง 08.42 น. และต่อมาเวลา 09.11 น.เดินออกจากบ้านไปอีกครั้งและหายตัวไปไม่กลับมาอีก
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบปากคำเพื่อนบ้านที่สนิทกันไว้ซึ่งก็ยังไม่ทราบถึงแรงจูงใจของการก่อเหตุฆ่าตัวตาย โดยจะต้องทำการสอบพยานแวดล้อมเพิ่มเติมอีกครั้ง จากนั้นจึงได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิตเพื่อชันสูตรหาสาเหตุต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: