เปิดภาพวงจรปิด 3 มุมขณะหนุ่มน้อยวัย 14 วิ่งหนีพ่อคู่อริหลังถูกตบหน้า ชักมีดขู่ ทำให้ถูกรถชนร่างกระเด็นบาดเจ็บ
จากกรณี ด.ช.บอย อายุ 14 ปี วิ่งหนีวินจยย.รับจ้างรุมทำร้าย ข้ามถนนตัดหน้ารถยนต์ขณะไฟเขียว ถูกรถชนได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณกลางแยกเมืองทอง ถนนติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 31 ส.ค.66
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 1 ก.ย.66 ผู้สื่อเข้าเดินทางเข้าพบ น.ส.ศิริโสภา เอี่ยมวรรณ อายุ 26 ปี พี่สาว และด.ช.บอยผู้บาดเจ็บ ที่บ้านพักเพื่อสอบถามอาการ และความคืบหน้าทางด้านคดี โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการติดตามตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ
ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณแยกเมืองทองธานีทั้ง 3 มุมจับภาพด.ช.บอย (สวมเสื้อเขียว)และด.ญ.ขวัญข้าว อายุ 6 ปี นั่งซ้อนรถจยย.มากับด.ช.ไมค์ อายุ 16 ปี เพื่อนซึ่งเป็นคนขับ ขณะติดไฟแดงในเลนขวาสุดที่ขี่ออกมาจากในเมืองทองธานี จากนั้นได้มีชายรูปร่างท้วมสวมเสื้อวิจยย.เดินมาจากวินจยย.ปากทางเมืองทองซึ่งเป็นจุดใกล้กันกับที่ด.ช.บอย จอดรถติดไฟแดงอยู่ โดยผู้ก่อเหตุเข้าไปดึงตัว ด.ช.บอย เดินมาที่วิน โดยขณะนั้นมีคนขับวินจยย.อีก 2 คนและหญิงสวมเสื้อแดง เดินเข้ามาร่วมกลุ่ม ก่อนที่คนก่อเหตุจะล็อคคอ ด.ช.บอย เดินไปที่ด้านหลังวิน
กล้องวงจรปิดตัวที่ 2 และ 3 จับภาพด.ช.บอยได้อีกครั้งเมื่อเวลา 17.00 น.กำลังวิ่งออกจากแยกเมืองทองธานี ตัดข้ามถนนติวานนท์ไปฝั่งตรงข้าม เป็นจังหวะเดียวกับที่สัญญาณไฟเขียว จึงถูกรถเก๋งชนอย่างแรงจนร่างกระเด็นตีลังกาก่อนตกลงพื้น โดยในภาพยังพบว่าคนขับวินจยย.เบอร์ 35 วิ่งตามมาพร้อมกับในมือคล้ายถือมีดด้วย
จากการสอบถาม ด.ช.บอย ทราบว่า เมื่อวานเย็นตนไปรับหลานจากโรงเรียนเพื่อไปส่งให้พี่สาวในเมืองทองธานีแต่พี่สาวไม่ได้เข้าไปทำงานในเมืองทองจึงได้ขี่รถจยย.ออกไปที่ออฟฟิศพี่สาวที่แยกสวนสมเด็จ ขณะติดไฟแดงพ่อของ ด.ญ.เตย ได้เดินมาจับมือตนให้เดินเข้าไปที่วินจยย.รับจ้าง โดยมีคนขับวินจยย.3-4 คนล้อมตนอยู่ พ่อของเตยได้ชักอาวุธมีดออกมาขู่ตนพร้อมกับตบหน้าตน 1 ครั้งหลังถูกตบหน้าตนจึงรีบวิ่งหนีข้ามถนนจนไปถูกรถชน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยมีเรื่องกับแฟนด.ญ.เตย มาก่อน เป็นเรื่องนานแล้วแต่ยังเคลียร์กันไม่จบ ส่วนพ่อของด.ญ.เตย ตนก็รู้จักเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาสอบปากคำตนแล้ว ซึ่งตนยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยเนื่องจากจะต้องใช้เส้นทางนี้รับ-ส่งหลานเป็นประจำ
ด้าน น.ส.ศิริโสภา เอี่ยมวรรณ อายุ 26 ปี พี่สาวด.ช.บอย กล่าวว่า เมื่อวานตอนเย็นตนได้รับแจ้งจากแฟนตนว่าน้องถูกไล่ฟันแล้ววิ่งหนี ซึ่งขณะนั้นลูกสาวตนอายุ 6 ขวบอยู่ที่รถจยย.ขณะเกิดเหตุด้วย เป็นเวลาที่น้องชายกำลังขับรถจยย.เอาลูกสาวตนมาส่ง เพราะตนเองทำงานในเมืองทองแต่วันเกิดเหตุไม่ได้เข้าไปทำงานตนก็ไม่ได้บอกน้อง น้องก็กำลังจะเอาลูกสาวไปส่งที่แยกสวนสมเด็จ และเกิดเรื่อง หลังได้รับแจ้งเหตุตนกับน้องสาวอีกคนได้เดินทางไปที่เกิดเหตุทันที พบน้องนอนได้รับบาดเจ็บ ตนพยายามสอบถามเรื่องราวแต่น้องพูดจาไม่รู้เรื่อง มึนงงอยู่ จึงได้สอบถามด.ช.ไมค์ เพื่อนน้องชายที่มาด้วยกันจึงได้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วนตัวน้องเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำส่ง รพ. ตนเองจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด
น.ส.ศิริโสภากล่าวต่อว่า น้องชายถูกนำตัวส่งเข้าห้องฉุกเฉิน ทำ CT สแกนทั้งสมองและข้อเท้าเพื่อหาความผิดปกติขณะที่อยู่ รพ.น้องมีอาการปวดหัวรุนแรงจนหมอต้องให้ทานยาแก้ปวดหลังจากผ่านไป 1 ชม.อาการมึนหัวลดลงทางรพ.ให้กลับมาดูอาการที่บ้าน โดยเสียค่าใช้จ่ายไปเกือบ 13,000 บาท ตอนนี้หัวน้องยังบวมอยู่ มีอาการปวดหัว เจ็บข้อเท้าและหลัง เนื่องจากมีแผลถลอก ส่วนเรื่องของคนที่มาทำร้ายตนทราบแต่ว่าเขาขับวินจยย.ที่ปากทางเมืองทองแฟนของลูกสาววินจยย.ก็คือฝ่ายชาย เคยมีเรื่องกับน้องชายมาก่อน ซึ่งเหตุการณ์นี้เท่าที่ทราบมีการชี้หน้ากันและเดินมาหาที่ตัว ก่อนจะดึงน้องชายตนเข้าไปที่วิน ตอนนี้รู้สึกกังวลหลังจากนี้ เพราะตนทำงานในเมืองทองและน้องชายก็ต้องผ่านทางนี้ประจำ เรื่องนี้ในฐานะที่ตนเป็นผู้ใหญ่ เรื่องนี้เป็นเรื่องของเด็ก ผู้ใหญ่ถ้าจะเข้าไปยุ่งกับเรื่องของเด็กควรสอบถามก่อนว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ลูกเขาพูดเรื่องจริงไหม ควรจะสืบเรื่องราวก่อน ก่อนที่จะทำร้ายเด็ก อย่างเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้น้องชายตนถูกกระทำจนไปเกิดอุบัติเหตุ ทำให้เรื่องราวเป็นคดีและเขาเองก็ต้องเดือดร้อนถูกดำเนินคดี ทั้งที่เขาเป็นผู้ใหญ่น่าจะให้เด็กพูดคุยไกล่เกลี่ยกันไม่ใช่เป็นคนมากระทำเด็กเอง
ล่าสุดทางด้านพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้บาดเจ็บ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อนำไปเป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวกลุ่มคนในภาพวงจรปิดมาดำเนินคดีตามกฏหมาย ส่วนทางด้านอาการผู้บาดเจ็บแพทย์ให้พักฟื้นที่บ้านเพื่อดูอาการต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: