น้องเขยวัย 74 ปืนโหด คว้าลูกซองสั้นจ่อยิงพี่เมียรุ่นเดียวกันดับคาที่ หลังทำร้ายเมียผู้ตาย ส่วนปมเหตุเพียงทาสีรั้วบ้านล้ำพื้นที่
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 22 พ.ย.66 พ.ต.อ.ธนะเมศร์ วิจิตรจริยา ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต ที่หน้าบ้านเลขที่ 50 ซอยวัดชมภูเวก ถนนสนามบินน้ำ 5 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จึงประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นกลางถนนที่อยู่ในซอยบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 50 พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณหน้าอกจำนวน 1 นัดแต่มีรอยรูกระสุนหลายรู มีลูกกระสุนปืนติดคาหน้าอก มีเลือดไหลเต็มพื้นถนน ส่วนที่บริเวณประตูหน้าบ้านเลขที่ 52 พบอาวุธปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์เบอร์ 12 ตกหล่นอยู่ โดยทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายอุทัย วัลลาราช อายุ 74 ปี อาชีพขายติ๋มซำอยู่หน้าวัดชมภูเวก ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายสมพงษ์ ชุ่มเพ็งพันธุ์อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นน้องเขยผู้เสียชีวิต เนื่องจากภรรยาผู้ก่อเหตุเป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปที่ สภ.รัตนาธิเบศร์
นางพัชร์จีรา จารุพงษ์สกุล อายุ 71 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. ตนกำลังให้คนงานมาทาสีอยู่ที่กำแพงรั้วหน้าบ้าน จากนั้นผู้ก่อเหตุได้เดินมาถามว่าทาสีมาที่กำแพงรั้วบ้านเขาทำไม ซึ่งตนไม่ได้ทาสีทับรั้วบ้านเขา แต่เขาได้เอาสีเหลืองมาทาทับเสารั้วบ้านผู้เสียชีวิต แต่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าเขตรั้วบ้านเขาอยู่ลึกกว่านี้ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้ปากกาสีฟ้าขีดเส้นบนกำแพงรั้วบ้านผู้ตาย ทำให้ตนต้องชี้หมุดที่ดินให้ดูว่าอยู่ตรงไหน หลังจากลุกขึ้นยืนผู้ก่อเหตุได้เดินตรงเข้ามาหาและใช้มือตบที่ใบหน้าข้างซ้ายตน 1 ครั้งจนแว่นตาหัก มีรอยช้ำเหนือตาซ้าย และข้างกกหูซ้ายตนจึงโทรศัพท์แจ้งสามีที่กำลังขายของอยู่ ทำให้สามีนั่งซ้อนท้ายรถ จยย.รับจ้างเข้ามาในซอย ก่อนจะลงมาตะโกนถามผู้ก่อเหตุว่าเป็นนักเลงเหรอ ขณะนั้นตนคิดว่าผู้ก่อเหตุได้เตรียมอาวุธไว้ก่อนแล้ว พอสามีถามว่านักเลงเหรอเขาก็ยิงทันที
น.สวรรษมน ศิริวชิโรวัฒน์ อายุ 49 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเห็นว่าเขาทาสีล้ำมาที่กำแพงบ้านตนมา 3 วันแล้ว แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร วันนี้ตนกำลังทาสีอยู่กับช่าง ผู้ก่อเหตุได้เดินออกมาที่หน้าบ้าน แม่ตนเองได้เอ่ยปากถามว่ามาทาสีล้ำรั้วบ้านแม่ทำไม ซึ่งแม่เล่าให้ฟังว่าเขาตบแม่จนแว่นหัก ตนจึงถามว่ามาตบแม่ตนทำไม ผู้ก่อเหตุอ้างว่าแม่ด่าเขา และเขายังได้ขู่พยายามทำร้ายตน พยายามจะเตะ จากนั้นแม่ได้โทรศัพท์หาพ่อที่กำลังขายของอยู่ พ่อจึงเข้ามาเป็นจังหวะที่เขาเดินออกมา พ่อจึงถามว่ามึงนักเลงมากเหรอ ขณะนั้นตนอยู่ข้างๆ พ่อ ผู้ก่อเหตุได้หยิบปืนออกมายิงใส่พ่อทันที ซึ่งตอนนั้นตนไม่เห็นพ่อว่าอยู่ตรงไหน หันกลับไปมองอีกทีพ่อได้ล้มลงและเลือดไหลแล้ว ส่วนตนได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนเฉี่ยวเข้าที่แขนซ้าย
นางเพ็ญ ชุ่มเพ็ง ภรรยาผู้ก่อเหตุ อายุ 70 ปี กล่าวว่า สามีตัวเองเป็นคนใจร้อน ก่อนหน้านี้ประมาณ 30 ปีตอนที่สร้างบ้านเคยมีปัญหากันเรื่องเงิน จากนั้นสามีตนก็มีปัญหาสะสมมาตลอด ส่วนลูกสาวเขาปกติก็จะมาคุยกับตนประจำ
นายนายสมพงษ์ ชุ่มเพ็งพันธุ์ อายุ 74 ปี ผู้ก่อเหตุ เปิดใจปมที่จ่อยิงว่า ตนกับผู้เสียชีวิตและภรรยาเขา ทะเลาะกันตั้งแต่ตนมาสร้างบ้านให้เขา สร้างเสร็จ เขาก็ไม่จ่ายเงินให้ตนเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 35 ปีมาแล้ว ตอนนั้นราคา 250,000 บาท แต่ราคาจริง 400,000 บาท ตนสร้างให้ไม่เอากำไร เอาแค่ค่าวัสดุและค่าแรง ส่วนวันนี้สาเหตุเกิดจากเรื่องขอบเขตที่ดิน ผมบอกว่าหลักเขตอยู่ตรงนี้แต่เขาบอกไม่ใช่ เอาเจ้าหน้าที่มารังวัดสอบเขตได้เลย จากนั้นก็มีปากเสียงกัน ตนไปตบเมียผู้เสียชีวิต จนกระทั่งเมียเขาก็โทรเรียกผู้เสียชีวิตเข้ามา เมื่อผู้เสียชีวิตมาถึง เมื่อมาถึงก็ใส่ผมเลย 2 คนรุมผม ส่วนปืนผมมีมานานแล้วพกอยู่ที่ตัวอยู่แล้ว
ก่อนเกิดเหตุขณะที่เขาปรี่เข้ามาหาตน ตนก็ถอยหลังทำอะไรไม่ถูก ก็บอกว่าเฮ้ยกูมีปืนนะ แต่เขาไม่กลัวยังเข้ามาอีกตนก็ถอยหลังชักปืนขึ้นมายิงสวนไป 1 นัด โดยคนตายมีศักดิ์เป็นพี่เมียของผม ซึ่งมาปลูกบ้านติดกันมานานแล้วโดยเขาชวนตนมาอยู่ข้างๆ ซึ่งตนยอมรับผิดก่อเหตุยิงเขาตายจริง ตอนนี้ตนมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวานหอบหืดมะเร็งขณะนี้ลูกๆ ของตนยังไม่รู้เรื่อง
ขณะเดียวกันกล้องวงจรปิดบ้านก่อนถึงที่เกิดเหตุ จับภาพผู้เสียชีวิตนั่งรถจยย.รับจ้าง (เสื้อขาวซ้อน จยย.) เข้ามาที่หน้าบ้าน จากนั้นรถจยย.รับจ้างที่มาส่งผู้เสียชีวิตได้ขับออกไป ผ่านไปประมาณ 2 นาที น่าจะเกิดเหตุยิงกันทำให้เพื่อนบ้านเดินออกมาดูที่หน้าบ้าน (ส่วนภาพขณะเกิดเหตุใบไม้บังเห็นเพียงแต่ว่ามีคนยืนอยู่)
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: