3 หนุ่มซิ่งกระบะชนท้ายรถจักรยานยนต์หนุ่มโรงงานกระเด็นไกลถึง 100 เมตรเสียชีวิต
เมื่อเวลา 20.20 น.วันที่ 13 ธันวาคม เจ้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนราชพฤกษ์ตัดใหม่ ขาเข้าบริเวณหน้าปั๊ม ปตท.ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้า รุ่น รีโว่ สีดำทะเบียน 3ฒน 3890 กทม พลิกตะแคงตกอยู่ข้างทางเข้าปั๊มน้ำมัน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน สภาพพังยับเยินล้มคว่ำอยู่ทางเข้าปั๊ม และในที่เกิดเหตุพบร่างของนายจักรพงษ์ วัชระชัยพงษ์ อายุ 25 ปีคล้องบัตรพนักงานของโรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ นอนเสียชีวิตอยู่ในโพรงหญ้าข้างทาง ขณะเดียวกันยังพบชาย 3 คนที่มากับรถกระบะขึ้นมาด้านบนก่อนที่จะหายตัวไป 2 คนเหลือเพียงนายนิกร เพียงเดียว ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจุดที่ชนอยู่กลางถนนห่างจากจุดที่รถกระบะและรถ จยย.ล้มคว่ำอยู่ไกลประมาณถึง 100 เมตร
น.ส.ส้ม กล่าวว่า ในขณะที่ตนเองขี่รถ จยย.ออกจากปั๊มสังเกตเห็นมีควันขึ้นบริเวณทางเข้าปั๊มน้ำมัน เลยวนรถและจอดดูมีพลเมืองดีเข้าไปช่วยกัน พบว่าในรถกระบะพลิกตะแคงอยู่มีคนขึ้นมา 3 คน จึงเข้าไปสอบถามกับบอกว่ามากัน 4 คนแต่ตนเองเห็นว่ามา 3 คนเท่านั้น
นายนิกร หนึ่งในผู้ที่มากับรถที่อยู่ในอาการเมาสุรา กล่าวว่า พวกตนมากัน 4 คนตนนั่งมาข้างหลังกระบะท้าย โดยดื่มเหล้ากันมาจากห้องพักใน จ.ปทุมธานี กำลังขับรถจะไปที่หาลูกพี่ไม่ทราบเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไร ต่อมาในขณะที่ตำรวจกำลังสอบปากคำนายนิกรอยู่ ชาย 2 คนคือนายอุเทน ชมภูประเภท อายุ 24 ปีและนายสุธิพงษ์ อินละวงศ์ อายุ 20 ปีที่หายตัวไปได้ย้อนกลับมาในที่เกิดเหตุและให้การว่าไม่ได้เป็นคนขับรถกระบะคันดังกล่าว
เบื้องต้นหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ ทราบว่ารถกระบะได้ขับมาตามถนนราชพฤกษ์ขาเข้า มาถึงบริเวณที่เกิดเหตุได้ชนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหน้าอย่างจังแล้วรถกระบะและรถ จยย.ได้เสียหลักตกลงไปในร่องข้างทาง โดยพลเมืองดีแจ้งว่ารถกระบะมากันเพียง 3 คน แต่คนในรถกระบะอ้างว่ามากัน 4 คนโดยคนขับเป็นเพื่อนร่วมงานชาวพม่าได้หลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตร ต่อไป
