โจ๋นนท์ดุขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามประกบก่อนใช้มีดจ้วงบาดเจ็บ ขณะที่คนเจ็บเผยและยืนยันไม่รู้จักกันมาก่อน
เมื่อเวลา 21.30 น.คืนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 67 ที่ผ่านมาตำรวจตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยป่อเต๊กตึ๊ง บริเวณแยกไทรม้า ว่ามีเด็กวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาขอความช่วยเหลือ หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นขับรถตามประกบใช้มีดจ้วงแทงถูกที่แขนได้รับบาดเจ็บ หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบนายแฮม (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี และนายน๊อต (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี โดยนายแฮม มีอาการบาดเจ็บถูกแทงเข้าที่โคนแขนด้านขวา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันปฐมพยาบาลทำแผลเบื้องต้น ก่อนนำส่งต่อไปรักษาที่รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์ บางใหญ่
ทีมข่าวเดินทางไปตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุพบว่าอยู่บนถนนนนทบุรี มุ่งหน้าไปทางสะพานพระนั่งเกล้า แต่น้องขับรถย้อนกลับมาขอความช่วยเหลือจากร้านซ่อมรถจักรยายนต์ ซึ่งพบรอยคราบเลือดตกอยู่ที่พื้นหลายจุด โดยทางช่างซ่อมให้ข้อมูลว่าน้องขับรถเข้ามาสองคนสภาพเลือดโชก เข้ามาขอความความช่วยเหลือ และพยายามแอบ กลัวถูกตามมาทำร้าย หลังจากเห็นว่าปลอดภัยน้องก็ขับรถออกไป
ผู้สื่อเดินทางไปที่ รพ.เกษมราษฎร์ บางใหญ่ สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับน้องแฮมที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ในรพ.โดยน้องแฮม ให้ข้อมูลว่าตนไปซื้อของเสร็จแล้วขับรถกลับไปทางด้านหลังตลาดนกฮูก เพื่อจะกลับบ้านขณะขับรถออกมาสังเกตเห็นเหมือนมีคนขับตามออกมา เมื่อเข้ามาใกล้เขาตะโกนบอกให้จอดแต่พวกตนไม่จอดขับหนี แล้วมีในกลุ่มพวกผมโดนเอาหมวกไปด้วย ส่วนผมแยกออกมา 1 คัน พวกนั้นก็ขับรถตามผมมา 2-3 คันซึ่งผมไม่รู้จัก จนกระทั่งมาจนถึงกระทรวงพาณิชย์ เขาบอกให้จอดอีกแต่ตนไม่จอดแล้วเขาก็เลยใช้มีดแทงตนเลย พอเขาแทงเสร็จเขาก็ขับหนีไปตนก็ขี่รถกลับเพื่อไปหาโรงพยาบาลแต่ก็หาโรงพยาบาลไม่เจอ น้องแฮม กล่าวอีกว่าตนไปตลาดนกฮูกครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ก่อนหน้านั้นตนไม่ได้เคยไปมีเรื่องหรือมองหน้าใคร แต่ไม่ทราบว่าพวกเพื่อนไปมีเรื่องมองหน้าใครหรือเปล่าเพราะพวกเพื่อนก็ไม่ได้บอก
ด้านนางก้อย (นามสมมุติ) กล่าวว่า ลูกขอไปตลาดนกฮูก บอกว่าเลิกเรียนจะไปตลาดนกฮูก ตนก็เลยบอกว่ารอด้วยแม่จะไปด้วยแต่เพราะตนยังติดธุระอยู่จนกระทั่งเขาออกไปเวลาประมาณ 19.00 น. ก็เลยถามลูกว่าจะกลับกี่โมงเลยบอกเขาว่าต้องกลับถึงบ้านไม่เกิน 22.00 น. และตนเองก็ดู GPS ลูกตลอดว่าอยู่ตรงไหนทำอะไรและคุยกันเป็นระยะลูกอยู่ตลาดก็ถ่ายรูปให้ดูว่ายังดูเสื้ออยู่ที่ตลาด ลูกบอกแม่ขอตังค์หน่อยจะซื้อเสื้อ ก็เลยโอนตังค์ให้ จนกระทั่งเวลา 22.20 น.ลูกยังไม่ถึงบ้านก็เลยดู GPS และคุยแชทถามลูกว่าจะกลับบ้านเมื่อไร เมื่อไรจะถึงบ้าน แล้วก็มีสายโทรเข้ามา เป็นเบอร์ลูกชาย แต่เพื่อนเป็นคนโทรมาบอกว่าแม่ใจเย็นๆก่อนนะ แม่อย่าเพิ่งว่าอะไร ลูกชายโดนแทง ตนก็ตกใจจึงถามไปว่าตอนนี้อยู่ตรงไหนเป็นอะไรบ้าง เขาบอกว่าตอนนี้อยู่กับกู้ชีพแล้ว เลยบอกว่าให้กู้ชีพพาส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดจากนั้นตนก็มารอลูกที่โรงพยาบาล ก็ทำอะไรไม่ถูกไม่คิดว่าจะเกิดกับลูกของตนเอง เพราะกล้าพูดได้เต็มปากว่าลูกไม่ใช่เด็กเกเร ตนเลี้ยงมาเองกับมือ ไม่ใช่เด็กช่างไม่ใช่เด็กเกเรลูกชายเรียนห้อง english program เรียนวิทย์ – คณิตไม่ได้เกเร ไม่เคยมีปัญหากับใคร
ส่วนเรื่องของคดีก็ปล่อยให้ตำรวจเป็นคนจัดการ เพราะตำรวจบอกว่าขอเวลาไม่เกินวันอังคารกำลังไล่กล้องตรวจสอบอยู่ แต่ตนบอกเลยว่าไม่ยอมแน่นอนต้องติดคุกอย่างเดียว เพราะแผลลูกชายถูกแทงลึกมาก ลึกไปถึงกระดูก มาถึงโรงพยาบาลเลือดยังไม่หยุดไหลเลย หมอเอาห้องผ่าตัดเอกซเรย์ 2 รอบ ตนไม่ยอมให้ตายก็ไม่ยอม ตนกำลังจะเอาลูกไปเรียนเพื่อสอบโรงเรียนเตรียมทหาร ก็เลยกลัวห่วงเรื่องนี้มากเพราะถูกแทงบริเวณกล้ามเนื้อด้านขวาของแขนด้วย ซึ่งตนก็ได้สอบถามหมอจะมีผลไหมหมอก็บอกขอเวลาสัก 2-3 เดือน เพื่อให้กล้ามเนื้อฟื้นฟู แต่บาดแผลไม่ได้โดนเส้นอะไรเพราะตรงแผลต้นแขนขวาเป็นช่วงกล้ามเนื้อไม่มีเส้นเอ็น แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงว่าลูกชายจะหมดสิทธิ์ตรงที่ว่าช่วงนี้เพื่อนสอบกันหมดแล้ว ลูกชายก็ต้องรอเวลาไปอีกถึงจะได้เรียน ตนจึงบอกว่าไม่ยอมให้ตายก็ไม่ยอมเด็ดขาด
