พระพยอมเผย เหตุไฟไหม้หนักสุดในรอบ 50 ปียืนยันประตูกุฎิห้องไม่ได้ล็อคตามที่ข่าวบางสำนักนำเสนอ
จากเหตุการณ์ไฟไหม้กุฎิพระหลังเก่า ภายในวัดสวนแก้ว ทำให้เด็กวัดที่ติดอยู่ภายในกุฎิตั้งแต่อายุ 9-11 ปี เสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวก่อนหน้านี้
ล่าสุดทางด้านพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เปิดเผยว่า ทางวัดเลี้ยงเด็กมาเกือบ 30 ปี เด็กรุ่นแรกๆมีครอบครัวจบการศึกษาปริญญาก็มี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพิ่งเกิดครั้งแรกและบังเอิญเป็นวันวิสาขบูชา อาตมาเทศน์เสร็จก็ไปเวียนเทียน จากนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปทำกิจวัตรประจำวัน ซึ่งเด็กก็คงเห็นโอกาสไม่มีผู้ใหญ่ดูแล จึงลงไปเล่นกัน ทำให้เกิดเหตุที่ไม่คาดฝัน เด็กที่อยู่รุ่นแรกๆ อยู่กันเป็นร้อยมากกว่านี้เยอะ ตอนนี้เหลือน้อยมากเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อคาดไม่ถึง มีเด็กลงไปเล่นกัน 5 คน แต่ขึ้นมานอนก่อน 2 คน ถ้าไม่ขึ้นมาอาจจะเป็น 5 ศพ
อาตมาจะพูดเล่าเหตุการณ์แค่บางส่วนแต่ความจริงต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน อาตมาเลี้ยงเด็กมา 20-30 รุ่นทำงานด้านนี้มา 50 ปี เด็กรุ่นแรกๆก็มีงานมีการทำกันหมดแล้ว ไม่เคยเกิดเหตุครั้งนี้ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ของวัดข่าวอาจจะมีความคลาดเคลื่อน ทำให้ทางวัดเสียหาย คือว่าเด็กวิ่งไปบอกกับ รปภ.ซึ่งทางวัดมี รปภ.อยู่เป็น 10 คน ก็วิ่งเอาถังดับเพลิงมาฉีดดับไฟ ที่สื่อบางช่องบางฉบับลงว่าไปถึงแล้วเข้าไม่ได้เพราะล็อคกุญแจหน้าห้องไว้ ไม่ใช่เรื่องจริง สาเหตุที่ดับไฟทันเป็นเพราะประตูไม่ได้ล็อค เรื่องประตูล็อคก็พูดว่าพระล็อคประตูไว้เรียบร้อย ออกข่าวแบบนี้พระเข้าคุกแน่ เรียกว่าฆาตกรรมเด็กชัดๆ วัดนี้เลี้ยงเด็กมา 20-30 รุ่นแล้วได้ดีบ้างติดคุกไปบ้าง ตายไปบ้าง แต่ไม่เคยมีเคสถูกไฟไหม้ตาย
ทางวัดมีนโยบาย มีเป้าหมายให้การศึกษากับเด็กที่ไม่มีญาติ และครอบครัวที่ไม่มีกำลังจะส่งลูกหลานเรียน อย่างเช่นเด็ก 2 คนนี้ทางวัดได้ตัดเสื้อผ้าชุดละ 1,000 บาท เรียนได้ 2 วัน วันวิสาขบูชา เขาก็หยุด พอหยุดเรียนเขาก็เสียชีวิต โดยแต่ละปี ทางวัดตั้งงบประมาณไว้ 3-4 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการศึกษา และเที่ยวนี้เด็กเพิ่งกลับไปเมื่อ 7-8 วันนี้เองรอบนี้เด็กมา 280 คน มานอนพักอยู่ในวัดไม่เคยเกิดเรื่อง แต่คราวนี้เป็นเด็กเล็ก ก็ถือเป็นเหตุสุดวิสัย แม่ขาวแต่ละคนเขาก็ดูแลเด็ก พาไปเข้าเรียน พาไปตัดเสื้อผ้า ใช้จ่ายโดยเงินมูลนิธิวัดทั้งนั้น ไม่มีเรื่องแอบแฝงอะไรกับเด็ก
เมื่อก่อนนี้เด็กมากที่สุด แต่มาพักหลังนี้อาตมามีงานเทศมากขึ้น ก็จ้างคนมาควบคุมดูแลเด็ก แล้วคนดูแลเขาไปตั้งเนื้อตั้งตัวดูแลธุรกิจ เขาก็ทิ้งงานเรื่องเด็กไว้ ทางวัดจึงต้องเริ่มลดจำนวน รับไม่เกิน 20 ถึง 30 คน แต่โรงเรียนปิดเทอมจะรับได้ 500-700 คน วัดจะจ้างคนดูแลทีมอุบัติเหตุ ซึ่งเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของวัดในรอบ 50 ปี
อาตมาเคยได้ยินข่าวว่าถ้าใช้แท็บเล็ต ต้องอย่าเสียบสายชาร์จ ต้องชักออกแล้วค่อยเล่น แต่อาตมาเคยได้ยินเด็กบอกว่าถ้าไม่อยากให้แบตหมด ต้องเสียบแล้วเล่น แต่ตอนเหตุการณ์จริงก็ไม่รู้ว่าเด็กไปเสียบอะไรไว้ตรงไหนหรือเปล่า จุดที่เกิดเหตุไฟไหม้ เมื่อก่อนเป็นกุฏิพระ ต่อมาพระเหลือน้อย เด็กเขาก็เลยไปหลบเล่นกันบ้าง แล้วถึงขึ้นไปนอน วันเกิดเหตุมีเด็กเล่นกันอยู่ 5 คน แต่ 2 คนขึ้นไปนอนเพราะบอกว่าเบื่อเล่นแล้ว สองคนนี้เลยรอด พ่อแม่ของเด็กแยกทางกันบางคนก็ตายไปแล้ว ก็มีย่ายายเอามาฝากอาตมา ก็ไม่ได้คุยอะไรมากขอที่อยู่เขาไว้ เวลาเป็นอะไรจะได้ติดต่อได้ เด็กที่เสียชีวิตเป็นฝาแฝด 2 คู่ ตายไป 1 คู่ อีกคู่ตายคนเดียว อาตมาก็ไม่ได้เห็นตรงจุดเกิดเหตุเพราะเข้านอนแล้ว แต่ไทยรัฐมาก่อนเพื่อน ไทยรัฐเห็นหมด อาตมาก็ไม่ได้เห็น แล้วไทยรัฐรับประกันว่าไม่ล็อค และที่ไม่เปิดประตูข้างหน้าเข้าไปเพราะร้อนมาก ก็เลยไปงัดด้านหลังออก ทีนี้ก็มีการสันนิษฐานหาเรื่องว่าวัดล็อคประตูข้างหน้าต้องถามไทยรัฐถ้าอาตมาพูดเอง วัดพูดเอง ก็เหมือนกับเป็นการแก้ตัว ถ้าไม่เชื่อกันก็แล้วแต่ดุลยพินิจ แต่มีคลิปโชคดีที่ รปภ.ไหวตัวทัน เข้าไปถึงจึงถ่ายคลิปไว้ก่อน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: