เจ้าของหมู่บ้านจัดสรรจ่อยิงหุ้นส่วนดับคาสำนักงานขายก่อนยิงตัวตายตาม คาดปัญหาเรื่องเงิน
เมื่อเวลา 18.10 น.วันที่ 2 ตุลาคม ร.ต.อ.ชัยพงษ์ ชมภูสาร รอง สว.สอบสวน สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย ภายในสำนักงานขายหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บนถนนต้นเชือก-วัดมะสง หมู่ 6 ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.ไทรน้อย สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พ.ต.ท.อดิศร บุญสนอง รอง ผกก.ป.พ.ต.ท.เรวัติ สุริยะ สว.สส. อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ้ง และประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าร่วมตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- นนทบุรี ศพชายปริศนาลอยอืดกลางคลองย่านไทรน้อย จนท.พบลักษณะคล้ายบาดแผลฉีกขาดที่แขนและใบหูขาด
- รวบสาวใหญ่ซิ่งมอไซค์ขนยาบ้า 516,000 เม็ด
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- จัดกิจกรรม โครงการ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน พื้นที่ อ.คลองหาด
ที่เกิดเหตุภายในสำนักงานขาย ที่พื้นห้องบริเวณโต๊ะทำงานพบศพ น.ส.กนกวรรณ แจ่มทรัพย์ไพศาล หรือ หนู อายุ 54 ปี หุ้นส่วนของโครงการหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าว สวมชุดสีชมพูลายดอกนอนตะแคงถูกยิงที่ศีรษะเสียชีวิต ใกล้กันพบศพนายสุพจน์ ปัญญาเทพ อายุ 55 ปี เจ้าของโครงการหมู่บ้านจัดสรรและเป็นอดีตประธาน กต.ตร.สภ.ไทรน้อยจ.นนทบุรี สวมเสื้อโปโลสีขาวน้ำเงินกางเกงยีนส์ มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะเสียชีวิต สภาพนั่งอยู่บนเก้าอี้ และที่พื้นใต้เก้าอี้พบปืนพกสั้นแบบออโต้ตกอยู่ที่พื้น 1 กระบอก และพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 2 ปลอก หัวกระสุน 1 หัวตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.อรวรรณ พนักงานขายหมู่บ้านรติรัตน์ กล่าวว่า ขณะที่ น.ส.กนกวรรณ นั่งอยู่โต๊ะทำงานด้านใน ส่วนตนพนักงานขายนั่งอยู่โต๊ะด้านหน้า เวลาประมาณ 17.00 น.นายสุพจน์ ได้เดินเข้ามาในสำนักงานขายบอกว่าจะคุยธุระกับพี่หนูให้ตนออกไปก่อน ตนจึงออกมานั่งข้างนอกกับแม่บ้าน จากนั้นสักพักได้ยินเสียงดังปัง 2 ครั้ง นึกว่าเขายิงไล่นกพิราบจนกระทั่งเวลา 18.00 น.จะกลับบ้านแต่เขายังไม่ออกมาไฟก็ยังเปิดอยู่ จึงคิดว่าเขาน่าจะคุยกันอยู่ จึงเดินไปบอกเขาว่าพี่หนูกลับแล้ว นะ แต่เขาก็เงียบจึงเปิดประตูเข้าไปได้กลิ่นควัน จึงตะโกนเรียกพี่หนูๆ และมองไปที่พื้นมีผ้าขี้ริ้วอยู่เห็นปลอกกระสุนตกอยู่ จึงคิดว่าน่าจะมีเหตุแล้ว จึงวิ่งออกมาเรียก รปภ.ให้เข้าไปดู ส่วนตนไม่ได้เข้าไปดูเพราะไม่กล้าดู จากนั้นจึงได้โทรเรียกกู้ภัยทันที ส่วนเขาทะเลาะอะไรกันไม่รู้เขาเป็นหุ้นส่วนกัน และไม่เคยรู้ว่าเขามีปืน
ด้านนางวรรรณา อายุ 52 ปี ฝ่ายจัดซื้อของหมู่บ้านรติรัตน์ กล่าวว่า ผู้ชายเขามีปัญหาเรื่องเงิน ไม่ได้โอนจ่ายเงินเดือนหลายเดือนแล้ว ส่วนเขาทะเลาะกันหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เพราะตนไม่ได้อยู่ในนั้นด้วยก่อนเกิดเหตุตนอยู่อีกห้องหนึ่ง เขาก็เคยบ่นว่าเครียด แต่ก็มีบ้างเขาทะเลาะกันเรื่องงาน ตนรู้เพียงแต่ว่าผู้หญิงเขามาช่วยเรื่องบัญชี
น.ส.กัญญาพัชร แจ่มทรัพย์ไพศาล อายุ 18 ปี หลานของ น.ส.กนกวรรณ ที่ถูกยิงเสียชีวิต กล่าวว่า ตนอยู่บ้านตรงข้ามกับน.ส.กนกวรรณ ซึ่งเป็นป้า แต่ป้าจะมากินข้าวที่บ้านตนตลอดทุกวันตอนเย็น วันนี้ตอนเย็นไม่มาจึงโทรหาแฟนของป้า แฟนเขาจึงบอกว่าป้าถูกยิงเสียชีวิต น่าจะมีปัญหาเรื่องเงินกับคนที่ยิงเพราะเท่าที่รู้เงินเดือนก็ไม่จ่าย แล้วเขาก็ติดหนี้ป้าเป็นแสน แต่ขอเบิกก็เบิกได้แต่ได้ทีละ 1,000-2,000 บาท โดยก่อนนี้ป้ากับคนยิงเคยทะเลาะกันมาแล้วรอบนึงเรื่องเงิน ซึ่งป้าทวงถามเรื่องเงินที่เขาหยิบยืมไป เขาก็เงียบเพราะเขาไม่มีเงินคืนสักบาท สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการทวงเงิน
ต่อมาแพทย์ได้ชันสูตรบาดแผลเบื้องต้น พบว่า น.ส.กนกวรรณ ถูกยิงที่ศีรษะจำนวน 1 นัด ส่วนนายสุพจน์ มีบาดแล้วถูกยิงที่ศีรษะขวาทะลุซ้ายจำนวน 1 นัด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานว่า นายสุพจน์ มีอาการเครียดเรื่องเงินที่ค้างจ่ายค่างานไว้หลายเดือน จึงมีการพูดคุยกับ น.ส.กนกวรรณ เป็นการส่วนตัว และน่าจะตกลงกันไม่ได้นายนายสุพจน์ จึงใช้อาวุธปืนยิง น.ส.กนกวรรณ ก่อนที่จะยิงตัวเองตายตาม จากนั้นจึงได้มอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊งนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: