ไรเดอร์หัวร้อน ค้ำคอกระหน่ำต่อยหน้าตำรวจขับรถนำขบวนนักเรียน อ้างเป็นต้นเหตุทำรถเฉี่ยวชนบาดเจ็บ
จากกรณีโซเชียลแชร์คลิปวิดีโอ เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งถูกชายฉกรรจ์ทำร้ายร่างกายชกต่อย เอามือค้ำคอ และใช้เท้าเตะกระจกมองข้างรถเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความเสียหาย ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.18 น.วันที่ 2 ต.ค.67
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง ต.สวนใหญ่อ.เมืองนนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุเพื่อสอบถาม รปภ.ของโรงเรียนดังกล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขณะเกิดเหตุมี น.ส.ศิริคูณ (สงวนนามสกุล ) หัวหน้าชุด รปภ.และ นายสุไบมัน (สงวนนามสกุล) รปภ. เข้าระงับเหตุไว้ได้
จากการสอบถาม น.ส.ศิริคูณ ทราบว่า ขณะเกิดเหตุเป็นเวลา 15.18 น. ตนและลูกน้องทำหน้าที่อยู่บริเวณประตูทางเข้าโรงเรียน ได่มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจขับเข้ามาโดยมีรถจยน.ของคนขับโบ้ว ขับตามมาติดๆ ตนจึงห้ามรถทั้งสองเข้าไปภายในโรงเรียนให้จอดที่ใกล้ประตูทางเข้าและถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยตนบอกทั้งสองฝ่ายว่าเข้าไปในด้านในไม่ได้ จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้ลงมาและมีปากเสียงกัน ทำให้ชายขับรถจยย.มีอารมณ์ฉุนเฉียว เข้าทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเตะกระจกมองข้างรถตำรวจหลุดทั้งสองข้าง ซึ่งทั้งสองมีเรื่องกันมาก่อนตั้งแต่แยกวงศ์สว่าง โดยจยย.มีการขับเฉี่ยวชนกับรถจยย.คันอื่น แต่เขาหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นต้นเหตุ ซึ่งไม่ได้เฉี่ยวชนกับรถตำรวจ โดยรถเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำขบวรรถเด็กนักเรียนของโรงเรียนใกล้เคียงกลับจากเข้าค่ายที่จังหวัดหนึ่งมา โดยเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวกับ รร.แห่งนี้ แค่เขาขับเข้ามามีเรื่องกันตรงจุดนี้
หลังเกิดเหตุ เวลา 16.00 น. ส.ต.ท.วิโรดม ณะใจบุตร อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจ อารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ) ผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนนทบุรี ว่าขณะตนขับขี่รถยนต์นำรถขบวนรถบัสนักเรียนของโรงเรียนสตรีนนทบุรี จำนวน 8 คัน กลับจากเข้าค่ายลูกเสือที่จังหวัดสระบุรี ขณะมาถึงบริเวณเชิงทางลงสะพานข้ามแยกประชาชื่นได้ขับขี่รถปิดทางการเดินรถด้านซ้ายมือเพราะเกรงว่าจะมีรถจากช่องทางดังกล่าวเปลี่ยนช่องทางเข้ามาในช่องทางของรถบัสและจะทำให้เกิดอุบัติเหตุกับรถบัสนักเรียน ซึ่งมีรถยนต์และรถจักรยานยนต์หยุดให้ทาง แต่ได้มีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า หมายเลขทะเบียน 6 ขจ4631 กรุงเทพ มีนายสหภาพ โมราวรรณ เป็นผู้ขับขี่มาและหยุดรถไม่ทันเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์อื่นจากนั้นได้ขับขี่ตามรถของตน มาจนถึงลานจอดรถวัดเขมาภิรตาราม และได้มาต่อว่าอย่างรุนแรง ตนจึงบอกให้นายสหภาพ ไปแจ้งความในพื้นที่เกิดเหตุของสน.ประชาชื่น และตนจะตามไปพบหากเป็นความผิดของตน พร้อมจะยินดีรับผิดชอบ แต่นายสหภาพ ไม่พอใจต่อยที่ใบหน้าจำนวน 2 ครั้ง จนศีรษะไปกระแทกเสาไฟ และนอกจากนั้นนายสหภาพ ได้เดินไปเตะที่กระจกมองข้างรถยนต์ทั้งสองข้างพังเสียหาย
จากการสอบถามนายต้า ผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ขณะเกิดเหตุตนมีลูกค้าเป็นนักศึกษาซ้อนท้ายมาด้วย โดยมุ่งหน้าไปส่งที่วงศ์สว่าง 11 โดยรถยนต์ตำรวจได้ทำการปิดกั้นถนนกระทันหันทำให้รถจยย.ด้านหน้าชนกัน และรถจยย.ของตนเบรคไม่อยู่ชนกับรถจยย.ซ้ำจนรถล้มและหัวเข่าตนกระแทกพื้น ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์แจ้งว่ารถตำรวจเป็นต้นเหตุให้ตนขับตามมา ตนจึงขับตามรถตำรวจมา ส่วนรถจยย.อีก 2 คันได้ขับขึ้นสะพานไปซึ่งตนไม่รู้ว่าไปไหน เมื่อตนตามมาเจอก็มีเรื่องชกต่อยกัน เพราะคำพูดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ตนรับไม่ได้ และถ้าตำรวจนืนยันไม่ซ่อมรถให้ตนจึงได้เตะรถเขาคืน ก็ต่างคนต่างซ่อมไป ตนโกรธเขา เพราะเป็นใครก็โกรธเกิดเหตุรถชนโดยเขาเป็นตนเหตุเขาไม่จอดรถลงมาดู เขาอ้างว่าเขาทำงานอยู่ หากตนเสียชีวิตไปจะทำยังไง คำพูดเขาทำให้ตนฟิวส์ขาด ตอนนี้คุยกันไม่ได้ส่วนเรื่องรถชนกันให้ตนดลับไปดูที่พื้นที่เกิดเหตุ ส่วนที่ สภ.เมืองนนทบุรี เป็นเรื่องทำร้ายร่างกายและทำลายทรัพย์สิน รถตนที่เสียหายเกิดจากชนกับรถจยย.จนเจ็บที่หัวเข่า แต่เขาเป็นต้นเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความและส่งตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจร่างกาย โดยหลังจากนี้จะนัดสอบปากคำทั้งสองฝ่ายอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
