ผู้การนนท์ เผยตำรวจถูกค้ำคอต่อยอำนวยความสะดวกให้ขบวนรถบัสนักเรียนโรงเรียนมัธยมชื่อดัง คดียอมความไม่ได้ ขณะที่ผู้ก่อเหตุรับผิดพร้อมชดใช้ค่าเสียหาย
จากภาพเหตุการณ์ที่แชร์ในโซเชียล ชายฉกรรจ์เข้าค้ำคอและชกต่อยเจ้าหน้าที่ตำรวจนำขบวนเด็กนักเรียนรร.มัธยมแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี จนได้รับบาดเจ็บ จากสาเหตุที่ชายฉกรรจ์อ้างว่ารถเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นต้นเหตุทำให้รถจยย.เฉี่ยวชนจนคนขับได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 15.18 น. วันที่ 2 ต.ค. 67 ที่ประตูทางเข้า รร.มัธยมชื่อดังต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 3 ต.ค. 67 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี นายสหภาพ โมราวรรณ อายุ 24 ปี ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม กล่าวว่า วันนี้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยตนต้องการเรียกร้องค่าเสียหายที่ทำให้รถตนเฉี่ยวชนจนเสียหาย ซึ่งตนประเมินราคาค่าซ่อมรถจยย. 20,000 บาท ยังไม่รวมค่าบาดเจ็บกับค่าขาดงาน ตามคลิปที่ออกไปที่ตนต่อยตำรวจเพราะเขาปัดความรับผิดชอบ ให้ตนไปแจ้งความอย่างเดียว ซึ่งเขารู้ว่าต้นเหตุเกิดจากเขาที่ทำให้รถเฉี่ยวชน ตนอดทนกับคำพูดเขามาเยอะ คนเรามันมีขีดจำกัด ต่อให้เขาเป็นตำรวจก็คือประชาชนแค่ใส่ชุดตำรวจ ดูเขาพูดปัดความรับปิดชอบให้ตนไปแจ้งความ แจ้งทำไมต้นเหตุคือเขา รถก็ไม่มีประกัน รถเขาก็ติดไซเรนติดได้ไง
ต่อมาเวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้เดินทางมาสอบสวนเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับเปิดเผยว่า เท่าที่มาสอบถามทราบว่าก่อนเกิดเหตุทางโรงเรียนได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกให้กับขบวนรถนักเรียน เพราะรถที่ใช้บรรทุกนักเรียนเป็นรถบัสทั้งหมด 8 คัน ขบวนรถจะยาวเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุจึงขอให้ตำรวจอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิปเป็นการอำนวยความสะดวกขบวนรถบัสนักเรียนเสร็จแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั่น รถจยย.ได้เฉี่ยวชนกับจยย.คันอื่นน่าจะเบรคไม่ทัน ทำให้โมโหจึงมีการขับตามกันมาและเป็นภาพที่เป็นตามคลิป สอบสวนเมื่อวานไม่ติดใจกัน แต่หลังจากภาพเผยแพร่ออกไปก็ต้องดำเนินการตามกฏหมายเนื่องจากการทำร้ายร่างกายกันยอมความไม่ได้ ส่วนเรื่องรถเฉี่ยวชนกันเป็นการทำให้เสียทรัพย์เป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ ต้องสอบถามว่าจะดำเนินคดีหรือไม่เพราะเป็นความผิดส่วนตัว ถ้าประสงค์จะดำเนินการตามกฏหมายก็ต้องดำเนินการไป
ต่อมาเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 3 ต.ค. 67 ที่สภ.เมืองนนทบุรี ส.ต.ท.วิโรดม ณะใจบุตร ผบ.หมู่ งานอารักขาที่ 3 กก.อารักขา 2 บก.อคฝ. เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต. ฐิติปกรณ์ คุ้มปานอินทร์ สว.สอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว นายสหภาพ โมราวรรณ อายุ 24 ปี เข้าไปในห้องสอบปากคำพร้อมกัน คาดว่าน่าจะเจรจาไกล่เกลี่ย โดยใช้เวลาเข้าให้ปากคำนานประมาณ 2 ชม.
นายสหภาพ โมราวรรณ อายุ 24 ปี กล่าวว่า เรื่องกระจกข้างรถยนต์ได้ตกลงกันแล้ว ทางตำรวจเช็คราคามา 8,000 บาท แต่ตนตรวจสอบมาราคา 5,000 กว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดให้เหลือ 5,000 บาท ส่วนเรื่องทำร้ายร่างการตำรวจตนก็ยอมรับว่าผิดที่ไปทำร้ายเขา ตนยอมรับผิดก็ตามที่ประชาชนพูดเพราะทุกคนเห็นแค่มุมเดียว โดยในวันพรุ่งนี้ตนจะโอนเงินให้เขา ส่วนคดีเฉี่ยวชนที่ สน.ประชาชื่น ซึ่งตนรอดูกล้องวงจรปิด ซึ่งขณะนี้ตำรวจสน.ประชาชื่น แจ้งว่าออฟไลน์ ตอนนี้ตนอยากได้กล้องอีกตัวเพื่อให้เห็นทุกมุม ตอนนี้มันไม่เห็นตอนชน ตนได้ปรับความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับรอผลตรวจร่างกายของตำรวจแล้วก็ขึ้นศาล ตนก็ไม่ติดใจอะไรแล้วยอมรับว่าผิด
จากการสอบถาม ส.ต.ท.วิโรดม ณะใจบุตร ผบ.หมู่ งานอารักขาที่ 3 กก.อารักขา 2 บก.อคฝ. กล่าวว่า ในส่วนของคดีที่ตนถูกทำร้ายร่างกายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฏหมายไป สำหรับรถยนต์ที่เสียหายก็ให้ไรเดอร์ชดใช้ค่าเสียหาย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นกับนายสหภาพ และให้ชดใช้ค่าเสียหายที่ทำกระจกรถยนต์หลุดทั้ง 2 ข้าง ส่วนคดีที่รถเฉี่ยวชนกันเป็นของพื้นที่ สน.ประชาชื่น หากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีก็ต้องทำการตรวจสอบพยานหลักฐานว่าใครผิด ก่อนจะดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
