พ่อแม่ ร้องสื่อคนขับกระบะเมาขับชนลูกชายแขนขาดเสียชีวิตไร้คู่กรณีเหลียวแล หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่วัดแอลกอฮอล์สูงถึง 260 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากนาย ณัฐวุธ บุกชนะ อายุ 26 ปี สามี ช่างเฟอร์นิเจอร์น.ส.บุษกร พรพิทักษ์สุข อายุ 29 ปี ภรรยา เซลล์บริษัทขายนม ถูกคู่กรณีขับรถกระบะชนท้ายรถ จยย.จนลูกชายวัย 6 ขวบ แขนซ้ายขาดและเสียชีวิต เหตุเกิดบนสะพานต่างระดับวัดโบสถ์ดอนพรหม ถนนบางศรีเมืองวัดโบสถ์-ดอนพรหม ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 5 ต.ค.67 เวลา 21.00 น.หลังเกิดเหตุไร้คู่กรณีแสดงความรับผิดชอบหรือแม้แต่จะมาพูดขอโทษ โดยเหตุการณ์นี้มีกล้องหน้ารถของรถเก๋งซึ่งเป็นผู้เสียหายเช่นกัน ถูกรถกระบะคันดังกล่าวเฉี่ยวชนก่อนที่จะพุ่งไปชนรถจักรยานยนต์อย่างแรงซึ่งเป็นภาพสะเทือนใจและหดหู่เนื่องจากคนเจ็บทั้ง 5 คนล้มลงนอนกับพื้นโดยผู้เป็นพ่อและแม่พยายามลุกขึ้นอุ้มลูกทั่งที่ตัวเองก็บาดเจ็บเช่นกัน
ข่าวน่าสนใจ:
นาย ณัฐวุธ บุกชนะ อายุ 26 ปี สามี กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนได้ขับรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีดำแดง ทะเบียน 1 ขฒ 1168 กรุงเทพมหานคร เพื่อจะไปเที่ยวงานวัดโบสถ์ดอนพรหม โดยมี น.ส.บุษกร ภรรยา ซ้อยท้ายอุ้มลูกสาววัย 1 ขวบลูกชายวัย 12 ขวบ นั่งกลาง ส่วนด.ช.ณัฎฐกิตติ์ บุกชนะ อายุ 6 ขวบ น้องซอฟ เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 นั่งด้านหน้า รวม 5 คน พอขับรถมาถึงกลางสะพานต่างระดับห่างจากงานวัดเพียงแค่ 200 เมตร จะถึงงานแล้ว ปรากฏว่าได้มีรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน บน-3940 ปทุมธานี ขับมาพุ่งชนท้ายรถ จยย.ของตนที่กำลังขับอยู่อย่างแรงโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้ตนภรรยาและลูก กระเด็นไปคนละทิศละทาง พอตั้งสติได้ตนมองไปที่ลูกชายนอนแน่นิ่งอยู่และพบว่าแขนลูกชายข้างซ้ายขาด ตนจึงรีบเข้าไปอุ้มลูกชายและเก็บแขนมากอดไว้ ส่วนภรรยา ได้อุ้มลูกสาวไว้ หลังเกิดเหตุคนขับรถกระบะได้พยายามขับรถหลบหนีไปได้ประมาณ 200 เมตร แต่ไปต่อไม่ได้เพราะรถ จยย.ติดอยู่ใต้ท้องรถกระบะ แล้วมีพลเมืองดีที่ขับรถผ่านมาช่วยจับตัวคนขับรถกระบะไว้ได้ ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือนำครอบครัวตนส่งรพ.พระนั่งเกล้า ก่อนลูกชายไปเสียชีวิตที่ รพ.
น.ส.บุษกร พรพิทักษ์สุข อายุ 29 ปี ภรรยา กล่าวว่า หลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีพยายามวิ่งไปจับตัวคนขับรถที่ชนเราหลังจากนั้นตนก็ไม่เห็นแล้ว เพราะคนขับกระบะหนีไปประมาณ 200 เมตร เขาขับไปจนถึงตีนสะพานแต่รถ จยย.ไปติดอยู่ใต้ท้องรถกระบะเลยทำให้ไม่สามารถไปต่อได้ ไปจอดอยู่ที่ตีนสะพานหน้าวัดโบสถ์ และมีพลเมืองดีขี่รถไปล็อคตัวไว้และตำรวจมาพอดีจับตัวไป แต่หลังจากนั้นตนไม่เห็นเหตุการณ์ เพราะตนต้องพาลูกขึ้นรถกู้ภัยไปโรงพยาบาล
พอมาถึงโรงพยาบาลหมอช่วยปั๊มหัวใจประมาณ 30 นาทีแต่ไม่ขึ้น หมอบอกว่าไม่มีชีพตั้งแต่มาแล้ว คาดว่าน้องน่าจะเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ แต่ตนจะช่วยชีวิตน้องก็เลยรีบพามาก่อน สาเหตุเบื้องต้นหลังส่งน้องไปชันสูตรที่นิติเวช พบว่าเกิดจากการกระแทกอย่างรุนแรงที่ช่วงอกและสูญเสียโลหิตจากแขนซ้ายขาดและคอหัก เพราะตอนที่พ่อเขาอุ้มตัวน้องเขาห้อยไปหมดแล้ว
น.ส.บุษกร กล่าวว่า อยากให้คู่กรณีได้รับโทษ ตนไม่ได้อยากได้เงินเยียวยาแต่ว่าอยากให้เห็นว่าพวกตนก็ลำบากและต้องสูญเสีย จากการเมาแล้วขับ รถคันกระบะคันที่ขับชนก็เป็นรถใช้งานของบริษัท เขารู้เหตุการณ์ก็ควรติดต่อตนมาบ้าง แต่เขาก็ไม่มาให้ปากคำเขาหายไปเลย ตนก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ทราบว่ารถของเขาพรบ.ก็ขาด แต่ยังปล่อยให้ออกมาใช้ทำงานอยู่ อยากให้เขาติดต่อกลับมาพูดคุยบ้าง เพราะตนก็ไม่มีเงินจะซื้อยารักษาไปโรงพยาบาลยังไม่ได้รับสิทธิ์ฉุกเฉินพวกตนต้องจ่ายเงินเองทุกวัน
ส่วนงานศพลูกชายได้ตั้งสวดทำพิธีทางศาสนา 3 วัน และณาปนกิจไปเมื่อวันที่ 9 ต.ค.67 ค่าใช้จ่ายยังโชคดีที่ทางวัดได้เมตตาช่วยเหลือและจากทางบริษัทของตนและสามีก็ช่วยเหลือ ตนได้สอบถามไปทางพนักงานสอบสวน เพื่อสอบถามว่าเขาเมาหรือเปล่า ทางพนักงานสอบสวนบอกว่าได้ตรวจวัดแอลกอฮอล์คนขับกระบะได้ 260 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
เรื่องที่เกิดขึ้นตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมกับครอบครัว จึงนำเรื่องมาร้องกับสื่อเพื่อให้ช่วยเหลือครอบครัวของตน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: