หนุ่มวัย 24 เห็นรุ่นพี่เมา หวังดีอาสาขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งบ้าน เกิดพลาดเสียหลักล้มถูกแท็กซี่ชนทับซ้ำดับคาที่
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 17 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. บางศรีเมือง จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าทีมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถแท็กซี่ชนกับรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดปากซอยบางกรวย-ไทรน้อย 37 ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จากนั้นจึงประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบร่างของนายปรีชาชัย สองศรี อายุ 24 ปีเป็นช่างซ่อมรถ จยย.นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน โดยมีรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น WR 155R สีน้ำเงิน ทะเบียน 4ขท 8655 กทม ล้มตะแคงอยู่ข้างตัว ห่างไปเล็กน้อยพบรถแท็กซี่ ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทห 5859 กทม มีร่องรอยพังเสียหายบริเวณกันชนหน้าด้านขวาจอดอยู่โดยมีนายประดิษฐ์ แสงแก้ว อายุ 69 ปี คนขับยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ
ขณะเดียวกันเหตุการณ์นี้กล้องวงจรปิดยังสามารถบันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจน ในขณะที่ผู้เสียชีวิตและเพื่อนขับขี่รถจักรยานยนต์กันมา 2 คัน และมีการหยุดรออยู่กลางถนนเพื่อจะเลี้ยวเข้าซอยบางกรวย-ไทรน้อย 37 จู่ๆ รถจักรยานยนต์ของนายปรีชาชัย เกิดเอียงเสียหลักล้ม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถแท็กซี่ขับสวนทางมาพอดีทำให้รถแท็กซี่นั้นชนและทับซ้ำดังกล่าว
นายธัญรนนท์ รักษ์พันเจริญ อายุ 57 ปีกล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์อยู่แถวย่านบางบัวทอง ส่วนรถจักรยานยนต์คันที่เกิดเหตุนั้นเป็นของรุ่นพี่ที่บ้านอยู่ในซอยบางกรวย-ไทรน้อย 37 ซึ่งก่อนเกิดเหตุตัวเจ้าของรถจักรยานยนต์ไปดื่มสังสรรค์มาและไปแวะหานายปรีชาชัย ที่บ้านย่านบางบัวทอง โดยนายปรีชาชัย เห็นว่ารุ่นพี่มีอาการมึนเมาขี่รถกลับเองจะไม่ปลอดภัย จึงได้อาสาขี่รถของรุ่นพี่มาส่งให้ที่บ้าน โดยให้ตัวเจ้าของรถนั้นนั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์ของเพื่อนมาอีกคันหนึ่ง จนกระทั่งมาเกิดเหตุสลดขึ้น
นายประดิษฐ์ โชเฟอร์แท็กซี่กล่าวว่าในขณะที่ตนเองขับรถมาตามเส้นทางปกติ จู่ๆ รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวที่จอดอยู่กลางถนนเพื่อจะเลี้ยวเข้าซอยเกิดล้มมาขวางถนนซึ่งเป็นจังหวะที่กระชั้นชิดไม่สามารถเบรคหรือหักหลบได้ทันเป็นเหตุให้ชนและทับซ้ำดังกล่าว
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบปากคำคนขับรถแท็กซี่รวมไปถึงเก็บหลักฐานซึ่งเป็นกล้องวงจรปิดไว้ โดยในกล้องเห็นอย่างชัดเจนว่า ผู้เสียชีวิตนั้นขี่รถจักรยานยนต์ที่มีลักษณะสูงในจังหวะที่จอดรถรอเลี้ยวคล้ายเท้าหยั่งไม่ถึงพื้นทำให้รถเกิดเสียหลักล้ม ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถแท็กซี่วิ่งสวนทางมาพอดีทำให้เกิดเฉี่ยวชนขึ้น แต่อย่างไรก็ตามจะต้องทำการสอบปากคำคนขับรถแท็กซี่เพิ่มเติม ส่วนผู้เสียชีวิตได้มอบให้ทางเจ้าหน้าที่มูนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อชันสูตรต่อไป
