พลังโซเชียลแชร์เฟสบุ๊กได้ผล หลังจากมีผู้โพสพบเด็กชายผิวพรรณดีนอนหน้าร้านสดวกซื้อย่านบางบัวทองนาน 6 วัน ล่าสุดพบแล้วแม่เด็กชายเป็นชาวเวียดนามหลังจากหนีออกจากบ้านมาคลาดมีปัญหาครอบครัว จนท.ส่งกลับประเทศป้องกันปัญหาเกรงเด็กจะหลบหนีออกมาอีกและเกิดอันตราย
วันที่ 2 ม.ค.62 จากกรณีที่ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพของเด็กชายชาวเวียดนามวัย 13 ปีที่ใช้บริเวณหน้าร้านสดวกซื้อซึ่งอยู่ภายในปั๊ม ปตท.ตรงข้าม ร.ร.เทศบาลวัดละหาร ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง เป็นที่หลับนอนมานานถึง 6 วันจนกระทั่งมีพลเมืองดีมาพบเห็นและนำภาพและข้อความให้ชาวโซเชียล ช่วยกันแชร์หาผู้ปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือและหลังจากนั้นไม่นานผู้สื่อข่าวลงพื้นที่และได้ประสานไปยังนายจำลอง ขำสา ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง เข้ามาช่วยเหลือ ขณะเดียวกันมีผู้ใจบุญคือนายอาทิตย์ วิจิตรตั้งตระกูล หรือเอก อายุ 35 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ที่เห็นเด็กชายคนดังกล่าวมาตั้งแต่วันแรกยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือโดยขอนำตัวเด็กมาดูแลเป็นการชั่วคราวในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทั่งมีการพูดคุยและสอบถามเด็กจนทราบว่าชื่อน้อง ต๊วน อายุ 13 ปีเป็นชาวเวียดนาม
ล่าสุดวันนี้มีข้อมูลว่าแม่ของน้อง ต๊วน ทำงานเป็นลูกจ้างของร้านขายข้าวแกงร้านหนึ่งตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าย่านถนนรัตนาธิเบศร์ ผู้สื่อข่าวจึงได้ประสานไปยังนายจำลอง ขำสา ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี พร้อมกับเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าวกระทั่งพบเจอกับนางเดือน ชาวเวียดนามนำรูปน้องต๊วน มาแสดงเพื่อยืนยันว่าเป็นมารดาของน้องต๊วน เด็กชายวัย 13 ปีที่มีการแชร์ในโลกโซเชียลจริง จากนั้นจึงได้พานางเดือน ไปหาน้อง ต๊วน ที่มีนายอาทิตย์ ฯดูแลไว้เป็นการชั่วคราวก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งประสานไปยังพ.ต.ท.วัชรพล กาญจนกันทร สวญ.ตม.จว.นนทบุรี, พ.ต.ท.สุภาพ สีนาค สว.ตม.จว.นนทบุรี , ร.ต.อ.ชัชวาล ท้าวพา รอง สวป.สภ.บางบัวทอง ,นายยศวัฒน์ คงมี ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง , นายอนาวิน. แก้วนามชัย ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง , น.ส.พลอยชนก ก้อชนะ นักสังคมสงเคราะห์ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้ามาพูดคุยเพื่อสอบถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่มีการพูดคุยกับ นางเดือน กันกว่า 1 ช.ม.จนทราบว่าปัจุบัน อยู่กับสามีใหม่หรือมีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยงของน้อง ต๊วน มาประมาณ 1 ปีซึ่งจากการพูดคุยคลาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้น่าจะมีปัญหาภายในครอบครัวทำให้น้อง ต๊วน หนีออกจากบ้านมาซึ่งในระยะ 2 เดือนน้อง ต๊วน หนีออกจากบ้านแบบนี้มาแล้วถึง 2 ครั้งรวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทางแล้วพบว่ามีอย่างถูกต้องจึงมีการตัดสินใจให้ทั้ง 2 แม่ลูกเดินทางกลับประเทศเวียดนามในวันรุ่งขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาที่น้องต๊วน อาจจะหลบหนีออกจากบ้านอีกถ้ายังคงพักอาศัยอยู่กับพ่อเลี้ยง
