พ่อมีอาการหลงลืมนอนกับศพลูกชายที่เสียชีวิตมาแล้ว 3 วันกระทั่งเพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็นโชยคลุ้งไปทั่วเดินไปดูพบเป็นศพ ขณะที่พ่อวัย 75 ปีไม่รู้ลูกตายบอกเพื่อนบ้านว่าลูกหลับอยู่
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 24 ม.ค.62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายวัน ภายในเพิงพักใกล้วัดบัวขวัญ หมู่ 9 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จากนั้นจึงประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ร่วมตรววจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นป่า กก ใกล้วัดบัวขวัญทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเดินเท้าเข้าไปในป่าและลุยดินโคลนเข้าจากถนนใต้ทางด่วนวัดบัวขวัญประมาณ 100 เมตรพบว่าจุดเกิดเหตุลักษณะเป็นบ้านไม้ปลูกสร้างเองไม่มีเลขที่ ภายในบ้านพบร่างของนายเอ๋ อนุเวช อายุ 34 ปีสภาพนอนหงายขึ้นอืดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2-3 วันส่วนภายในบ้านยังพบนายกวี อนุเวช อายุ 75 ปีซึ่งเป็นบิดาของผู้เสียชีวิตที่มีร่างกายไม่คอยสมบูรณ์พูดจาคล้ายคนหลงๆลืมๆ นั่งนอนอยู่กับบุตรชายที่เสียชีวิตมาแล้ว 2-3 วันที่ผ่านมา หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องพยามเอาร่างของผู้เสียชีวิตออกมาด้วยอย่างทุลักทุเล เพื่อนำศพส่งชันสูตร
นายสรายุทธ อายุ 60 ปีเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันเปิดเผยว่าเห็นผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมาหลังจากนั้นก็ไม่พบเห็นอีก ตัวนายเอ๋ เมื่อก่อนเคยมีอาชีพเก็บของเก่าและเป็นเจ้าหน้าที่ รปภ.แต่วันหนึ่งมาประสบอุบัติเหตุจนแขนซ้ายไม่สามารถใช้การได้ประกอบกับมีโรคประจำตัวเป็นโรคปอดจึงจะต้องออกจากงานจนถึงปัจจุบัน ซึ่งทุกวันนายเอ๋ จะไปขออาหารจากวัดบัวขวัญ มากินกัน 2 พ่อ-ลูก กระทั่งล่าสุดวันนี้ในขณะที่ตนเองกำลังกวาดขยะบริเวณบ้านก็ได้กลิ่นเน่าเหม็นโชยออกมาจึงได้เดินไปถามนายกวี พ่อของนายเอ๋ ว่าลูกไปไหนตัวนายกวี ตอบกลับมาว่าหลับอยู่ ซึ่งตนเองเริ่มผิดสังเกตไม่เห็นนายเอ๋ มาหลายวันประกอบกับกลิ่นเหม็นเน่าโชย ออกมาจากบ้านอย่างรุนแรงจึงได้ตัดสินใจเดินเข้าไปดูถึงพบว่านายเอ๋ นั้นเสียชีวิตแล้ว
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันไว้ โดยสันนิษฐานว่านายเอ๋ น่าจะเสียชีวิตด้วยโรคประจำเนื่องจากเบื้องต้นไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายประกอบกับข้อมูลทราบว่าป่วยเป็นโรคปอด อาจจะเป็นไปได้ว่าอาการเกิดกำเริบขึ้นทำให้หมดสติและเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่อย่างไรก็ตามได้มอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิตเพื่อชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: