ชาวบ้านร้องรอบที่ 3 โครงการหมู่บ้านหรูย่านบางบัวทองสาธารณูปโภคไม่ได้มาตรฐานหวั่นผู้ดูแลเบิกเงินมัดจำโครงการกว่า 3 ล้านบาทหนี ขณะที่ทางรองผู้ว่าสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบให้แล้วเสร็จใน 7 วัน
วันที่18 ก.ค.62 ที่ห้องประชุมชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ดร.วชิราภรณ์ พงษ์วรัฏฐกุล อายุ 35 ปีตัวแทนชาวบ้านพร้อมด้วยชาวบ้านที่ซื้อบ้านของโครงการหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง ถนนละหาร-ลำโพหมู่ที่ 5 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี กว่า 50 คน ได้เดินทางเข้าพบนายชลธี ยังตรง รอง.ผวจ.นนทบุรี เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีโครงการหมู่บ้านหรูดังกล่าวไม่ดำเนินการซ่อมแซมถนนสาธารณะและสาธาระณูปโภคอื่นๆที่ไม่ได้มาตรฐาน หลังชาวบ้านร้องเรียนไปยังหน่วยงานราชการต่างๆรวมถึงสื่อมวลชนแล้ว แต่เรื่องก็เงียบหายไป จนสร้างความเดือนร้อนให้กับชาวบ้านที่ซื้อบ้านของโครงการดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ทางด้านดร.วชิราภรณ์ กล่าวว่าวันนี้ตนพร้อมเพื่อนบ้านที่ได้รับความเดือนร้อนได้รวมตัวกันมาเพื่อสอบถามความคืบหน้าจากทางจังหวัด ซึ่งก่อนหน้านี้พวกตนได้ไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงค์ธรรมอำเภอบางบัวทองมาแล้วถึง 2 ครั้งซึ่งทางอำเภอบางบัวทอง ได้มีการเรียกฝ่ายเจ้าของโครงการหมู่บ้านมาพบเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าที่ชาวบ้านร้องเรียนจริงหรือไม่ ทางฝ่ายหมู่บ้านได้ส่งตัวแทนมาพบก่อนจะยอมทำบันทึกข้อตกลงว่าจะซ่อมแซมถนนและสาธาระณูปโภคอื่นที่ไม่ได้มาตรฐานภายใน 75 วัน ซึ่งชาวบ้านก็ยอมรับข้อเสนอจนถึงขณะนี้เวลาล่วงเลยกำหนดมาแล้วกว่า 1 เดือน มีการซ่อมแซมยังไม่ถึง 20 % และในส่วนที่มาซ่อมแซมก็เป็นแค่เพียงการนำปูนมาปาดหน้าผิวถนนที่มีรอยแตกร้าวเท่านั้น เมื่อสอบถามไปก็ได้รับคำตอบว่าถ้าจะให้ทำมากกว่านี้ก็ต้องให้หลวงสั่งมานอกจากนี้ตนทราบมาว่าที่ทางโครงการเข้ามาซ่อมแซมเพราะต้องการจะทำเรื่องเบิกเงินค่าค้ำประกันของโครงการเป็นจำนวนเงินกว่า 3.3 ล้านบาทกับกรมที่ดินคืน วันนี้จึงต้องรวมตัวกันมาสอบถามความคืบหน้ากับทางจังหวัดให้ช่วยดำเนินการช่วยเหลือให้กับชาวบ้านด้วยเพราะถ้าทางโครงการเบิกเงินได้เกรงว่าจะทิ้งโครงการและไม่แก้ปัญหาความเดือนร้อนให้กับชาวบ้าน จึงอยากให้ทางหน่วยงานราชการเร่งช่วยเหลือพวกตนให้เหมือนกับกรณีที่ให้การช่วยเหลือนักร้องดังซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นเรื่องก็จบจึงอยากให้ใช้มาตรฐานเดียวกัน
นายชลธี ยังตรง รอง ผวจ.นนททบุรี เปิดเผยว่าเบื้องต้นได้รับเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวเอาไว้พร้อมสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน, อบต.ลำโพ, กรมโยธา, เข้าไปตรวจสอบเรื่องร้องเรียนดังกล่าวให้เเล้วเสร็จภายใน 7 วัน และให้ส่งเรื่องให้คณะทำงานหมู่บ้านจัดสรรจังหวัดนนทบุรี ทำการตรวจสอบหากพบว่าผิดจริงให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับทางโครงการดังกล่าวในส่วนของเงินค้ำประกันหมู่บ้านจากการตรวจสอบแล้วยังอยู่ครบ 3.3 ล้านบาทซึ่งหากทางโครงการยังไม่ยอมซ่อมแซมด้านสาธารณูปโภคให้กับชาวบ้านอีกทางกรมที่ดินมีอำนาจนำเงินส่วนนี้มาซ่อมแซ่มให้กับชาวบ้านได้เลยซึ่งในส่วนของทางจังหวัดจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: