เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบางเลนเข้าช่วยเหลืออดีตตำรวจฝ่ายสืบสวนกลับบ้านจังหวัดพิจิตร หลังจากประชาชนพบเห็นหลับนอนที่ศาลารอรถประจำทางนานหลายวัน เจ้าตัวเผยเหตุผลที่ออกจากบ้านเพราะแค่อยากเดินทางไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมายอีกทั้งอยากเจอบุตรชายที่ไม่พบกันมากว่า 4 ปี
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 9 ก.ย.62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บริเวณศาลาหยุดรถประจำทางริมถนนบางกรวย-ไทรน้อยหมู่ 9 ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรีหลังจากได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบางเลน อ.บางใหญ่ ว่าพบชายนอนพักอาศัยอยู่ที่ศาลาดังกล่าวมานานหลายวันแล้ว จากการพูดคุยทราบว่าเป็นอดีตข้าราชการตำรวจอยู่ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด จึงเดินทางตรวจสอบหาข้อเท็จจริงดังกล่าว
จากการสอบถามและพูดคุยกับชายคนดังกล่าวจนทราบว่าชื่อนายวิชัย ทองสุวรรณอายุ 58 ปีชาว จ.พิจิตร อดีตเคยรับราชการตำรวจประจำอยู่ สภ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ปัจจุบันลาออกจากราชการแล้ว นายวิชัยฯ กล่าวว่าตนเองได้ลาออกจากราชการเมื่อปลายปี พ.ศ.2558 หลังจากนั้นได้เลิกลากับภรรยาซึ่งมีบุตรด้วยกันทั้งหมด 3 คนแต่ 1 ใน 3 ซึ่งเป็นบุตรชายคนโตเสียชีวิตไปสาเหตุที่ออกจากราชการนั้นเกิดรู้สึกเบื่อกับอาชีพตำรวจ ซึ่งรับราชการตำรวจมานานถึง 32 ปี จึงตัดสินใจลาออกและใช้ชีวิตอยู่เพียงคนเดียวโดยบุตรที่เหลืออีก 2 คนนั้นไปอยู่กับทางภรรยาและตั้งแต่เลิกลากันไปก็ไม่เคยเห็นหน้าและพูดคุยกับบุตรอีกเลยจนกระทั่งเมื่อช่วงต้นเดือน ส.ค.62 ที่ผ่านมาจึงตัดสินใจออกจากบ้านจาก จ.พิจิตรขึ้นรถไฟมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ และเร่ร่อนใช้ชีวิตไปวันๆ ค่ำไหนนอนนั่นจุดประสงค์แค่อยากเดินทางไปไหนเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมายปลายทาง โดยมีเงินติดตัวออกจากบ้านมาเพียงพันกว่าบาทแต่จะเข้าไปถอนเงินจากธนาคารช่วงสิ้นเดือนจากเงินบำนาญของทางราชการ ซึ่งก่อนหน้าได้เดินทางไปมาหลายที่แล้วล่าสุดได้มาพักอาศัยอยู่ที่ศาลาหยุดรถประจำทางตรงนี้ได้ประมาณ 10 วันเนื่องจากไม่มีเงินที่จะเดินทางต่อ ต้องรอเงินบำนาญออกอีกครั้งในช่วงสิ้นเดือน จนกระทั่งวันนี้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบถามและพูดคุยด้วย
น.ส.อัญชลี นาคคำ หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาล ท.ต.บางเลนกล่าวว่าทางเทศบาลบางเลนได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีชายคนหนึ่งมาหลับนอนอยู่ที่ศาลาหยุดรถประจำทางแล้วหลายวันจึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้มีการพูดคุยกันถึงได้ทราบว่าบุคคลดังกล่าวคือนายวิชัย ทองสุวรรณ อดีตเคยรับราชการตำรวจยศดาบตำรวจในตำแหน่ง ผบ.หมู่ (สส.) หรือฝ่ายสืบสวนประจำ สภ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด โดยทางเจ้าหน้าที่เทศบาลเป็นห่วงการเป็นอยู่ที่หลับนอนจึงอยากให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยและสอบถามถึงความต้องการโดยพูดคุยกันอยู่พักหนึ่งนายวิชัยฯพูดออกมาว่าตอนนี้อยากเจอลูกชายมาก พร้อมจะเดินทางกลับบ้านเองใน จ.พิจิตร ทางเทศบาลจึงได้ตรวจสอบหาข้อมูลจนสามารถติดต่อบุตรชายได้สำเร็จ โดยได้ให้มีการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ซึ่งเห็นความดีใจและน้ำตาที่ไหลออกมาจากตาของนายวิชัยฯ อย่างเห็นได้ชัด หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ของทางเทศบาลได้มอบเงินค่าเดินทางพร้อมกับไปส่งขึ้นรถไฟเพื่อเดินทางกลับ จ.พิจิตร ทันที
