ที่สนามกีฬาวิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ จากที่ สนง.พาณิชย์ จ.อุตรดิตถ์ ได้กำหนดจัดงาน “มหกรรมธงฟ้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคจังหวัดอุตรดิตถ์” ขึ้นระหว่างวันที่ 23-27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีนายฉัตรชัย ศักดิ์ศิลปชัย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน นางณัฐพร มหาไพบูลย์ พาณิชย์จังหวัดอุตรดิตถ์ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมเปิดงานดังกล่าวฯ ภายในงานผู้ประกอบการได้นำสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพมากกว่า 1,000 รายงานมาจำหน่ายในราคาต่ำกว่าท้องตลาด ทั้งนี้เพื่อเป็นการแบ่งเบาลดค่าครองชีพให้กับประชาชน จ.อุตรดิตถ์และใกล้เคียง ในภาวะน้ำมันแพง ทั้งนี้ในแต่ละวัน จะมีการจัดนาทีทอง วันละ 3 รอบ คือ 11.00 น. 14.00 น.และ 17.00 น. ลดราคาสินค้าพิเศษ 6 รายการ คือ รายการ คือ ข้าวหอมมะลิ น้ำตายทราย น้ำมันพืช เนื้อหมู เนื้อไก่ และ ไข่ไก่ ซึ่งเป็นสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันทุกครอบครัว ซึ่งจำหน่ายราคาถูกและมีจำนวนจำกัด ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีสินค้าทุกชนิดหมดในพริบตา ทุกวันสถานที่จัดการแทบแตก เนื่องจากประชาชนจำนวนมากเข้าแถวต่อคิวเพื่อรอซื้อสินค้านายฉัตรชัย กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้จัดงานงานมหกรรมธงฟ้าฯ จัดขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยประสานผู้ประกอบการจำสินค้าจำหน่ายกว่าท้องตลาดร้อยละ 20-40 เบอร์เซ็นต์ ทั้งอุปโภคบริโภคมากกว่า 1000 รายการเช่น สบู่ ยาสีฟัน อุปกรณ์การเรียน อาหารสด เป็นต้น รวมไปถึงอาหารตามสั่งราคาไม่เกิน จานละ 35 บาท ทั้งนี้ได้คัดจังหวัดที่ประชากรมีรายได้ต่ำเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย 6 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่เหลือทั่วประเทศ ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัด จัดสินค้า เช่น ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำตาลทราย ไข่ไก่ เปิดจุดจำหน่ายในราคาธงฟ้าเช่นกัน ด้านนางณัฐพร กล่าวว่า การจัดงาน 5 วัน ประชาชนชาวจังหวัดอุตรดิตถ์และใกล้เคียงให้ความสนใจ เลือกซื้อสินค้าราคาประหยัดเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยวันละ 2,000 คน โดยเฉพาะสินค้าพิเศษ 6 รายการ แต่ทั้งนี้มีจำนวนจำกัด เช่นข้าวหอมมะลิถุงละ 5 กิโลกรัมขายเพียง 100 บาท มีเพียง 140 ถุง/วัน ,น้ำตายทรายกิโลกรัมละ 16 บาท จำหน่าย 3000 กิโลกรัม/วัน ,น้ำมันพืช ขวดละ 22 บาท มีเพียง 1680 ขวด/วัน เป็นต้น รวมไปถึงเนื้อหมู 80 บาท/กิโลกรัม และเนื้อไก่ ลดเหลือกิโลกรัมละ 35 บาท ด้วยราคาถูกทำให้สินค้าไม่พอจำหน่ายและความต้องการของประชาชน ตลอดการจัดงานจนถึงวันที่ 27 พฤษภาคม นี้ มีประชาชนมาจับจ่ายซื้อสินค้า ประมาณ 12 ล้านบาท ซึ่งสามารถลดค่าครองชีพ ประหยัดรายจ่ายได้มากกว่า 5 ล้านบาท และกระจายสินค้าได้มากกว่า 1 หมื่นครอบครัว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: