ณ มณฑลทหารบกที่ 35 จ.อุตรดิตถ์ พลตรีชัยเดช สุรวดี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 35 ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วย พลตำรวจตรีทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ พันเอกประสิทธิพงษ์ มูลดี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุตรดิตถ์ หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำรวจความพร้อมทั้งกำลังพล เจ้าหน้าที่ ทีมแพทย์พยาบาล อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย และอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือ เช่น ไฟแสงสว่าง ชุดช่วยเหลือด้านพยาบาล เรือ ของหน่วยงานต่างๆ ทั้งระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด ทั้งภาคพื้นอากาศ บนบก และ ในน้ำ เพื่อพร้อมลงปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม หลังเข้าสู่ฤดูฝน และมีฝนตกในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้หวั่นเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเมื่อ 12 ปีที่ผ่านมา พลตรีชัยเดช กล่าวว่า เข้าสู่ฤดูฝน เป็นสัญญาเตือนให้ส่วนราชการ อปท.และประชาชนชาว จ.อุตรดิตถ์ ต้องตื่นตัวและมีความพร้อมรับมือกับอุทกภัยที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งเมื่อปี 2549 เกิดดินโคลนถล่ม อ.ลับแล อ.ท่าปลา มีผู้เสียชีวิตมากถึง 75 ราย บ้านเรือนเสียหายกว่า 3,500 หลังคา นอกจากคนและอุปกรณ์จะพร้อมแล้ว ต้องมีการซักซ้อมแผนให้สมจริงทุกสถานการณ์ โดยได้มอบหมายให้ พันเอก สมัย ขำพันธ์ ผอ.โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก ประสานงาน ประเมินสถานการณ์ และรายงานความคืบหน้า เมื่อเกิดเหตุ พันเอก สมัย กล่าวว่า ได้จำลองสถานการณ์เสมือนจริง การอพยพผู้ประสบภัย ผู้ได้รับบาดเจ็บ เด็ก ผู้สูงอายุทางเรือ การค้นหาผู้สูญหาย ผู้เสียชีวิต ทั้งทางเรือ ทางอากาศ ความพร้อมของทีมแพทย์ พยาบาลในการช่วยเหลือชีวิต เส้นทางอพยพและศูนย์พังพิงผู้ประสบภัย การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม และรถประกอบอาหารเคลื่อนที่ การซักซ้อมถือเป็นการเตรียมความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ และตลอด 24 ชั่วโมง รวดเร็ว ฉับไว เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย หรือลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้ได้มากที่สุดอย่างไรก็ตามเชื่อว่าจากเหตุภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น สร้างความตระหนัก ตื่นตัว ไม่ประมาททั้ง จนท.และประชาชน พื้นที่เสี่ยงภัย เมื่อเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องมากกว่า 100 มิลลิเมตร นาน 3 วัน พบระดับน้ำต่างๆมีสีแดงขุ่น เกิดดินโคลน พึ่งระวัง และเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญต้องเชื่อในคำเตือนของ จนท.ผู้นำชุมชน ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: