สำนักงานเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอน้ำปาด ได้ร่วมจัดงาน “วันรณรงค์ลดการเผาในท้องถิ่น” ประจำปี 2563 ขึ้นที่ลานกิจกรรม อบต.น้ำใคร้ อ.น้ำปาด โดยนายศุภชัย บุญทิพย์ นายอำเภอน้ำปาด เป็นพิธีเปิดงานดังกล่าว โดยนายประโชติ นิลรัตน์เกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์, หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดและอำเภอ, นายกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำไคร้, กำนันตำบลน้ำไคร้,ผู้นำท้องถิ่น และประชาชรเกษตรกรพื้นที่เป้าหมายเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 200 คน
นายประสิทธิ์ สว่างมณีเจริญ หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า จากรายงานพื้นที่การเผาไหม้ปี 2562 ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ Gistda พบว่าจังหวัดอุตรดิตถ์ มีพื้นที่การเผาไหม้สะสมทั้งหมด จำนวน 357,928 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ปาอนุรักษ์ จำนวน 131,354 ไร่ เขต สปก. 51,324ไร่ พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 86,488 ไร่ พื้นที่เกษตร 71,060 ไร่ พื้นที่ริมทางหลวง 1,431ไร่ และชุมชนและอื่น ๆ จำนวน 16,272ไร่ ซึ่งการเผาไหม้ดังกล่าวฯ เป็นสาเหตุของปัญหาหมอกควันทำให้ส่งผลต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก รวมทั้งส่งผลเสียต่อการทำอาชีพการเกษตรโดยตรง กล่าวคือ ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของดิน ทำลายโครงสร้างของดิน ทำลายจุลินทรีย์ สูญเสียอินทรียวัตถุในดิน สัตว์และแมลงที่เป็นประโยชน์ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ผลผลิตที่ได้รับต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
ด้วยเหตุนี้กรมส่งเสริมการเกษตร ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้จัดสรรงบประมาณให้สำนักงานเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์จัดงานวันรณรงค์ลดการเผาในท้องถิ่น วัตถุประสงค์เพื่อให้มีการรณรงค์ลดการเผาในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงวิฤตปัญหาหมอกควัน โดยการถ่ายทอดความรู้ เผยแพร่ข้อมูลแก่เกษตรกรในชุมชน ผ่าน การจัดงานวันรณรงค์ลดการเผาในท้องถิ่น โดยมีการจัดกิจกรรมการจัดฐานเรียนรู้และนิทรรศการจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หน่วยงานภาครัฐ, และภาคเอกชน โดยการเรียนรู้ เป็น 4 ฐานการเรียนรู้ ดังนี้ ฐานรักษ์โลกด้วย “ไบโอชาร์” โดย ศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ , ฐานการควบคุมไฟป่า โดย สถานีควบคุมไฟป่าต้นสักใหญ่ ,ฐานการไถกลบต่อซังข้าวและการทำปุยหมัก โดย สถานีพัฒนาที่ดินอุตรดิตถ์ , ฐานการสาธิตการอัดฟางข้าวโดย คูโบต้าอุตรดิตถ์ยนตรกิจ จำกัด ทั้งนี้จังหวัดอุตรดิตถ์นั้นยังมีการเผาในพื้นที่การเกษตรอยู่มาก การเผาในพื้นที่การเกษตรนั้นก่อให้เกิดผลเสียอย่างมาก เกิดอันตรายและผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำและปรับ และยังเป็นสาเหตุที่สำคัญของปัญหาดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ส่งผลให้พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้เต็มที่ ผลผลิตที่ได้รับต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และเป็นแหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศที่สำคัญแหล่งหนึ่ง ก่อให้เกิดฝุ่นละออง หมอกควัน ก๊าซพิษ เถ้า และเขม่าควัน ระบายสู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลทำให้เกิดปัญหาหมอกควันปกคลุมประเทศไทย โลกร้อนขึ้น และมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน กระทบต่อการท่องเที่ยว สูญเสียทางด้านเศรษฐกิจของประเทศการจัดงานวันรณรงค์ลดการเผาในท้องถิ่นจะทำให้พี่น้องเกษตรกรได้รับประโยชน์ในการลดการเผาในพื้นที่ทางการเกษตร เกิดการตระหนักถึงปัญหาผลกระทบในการเผาในพื้นที่ทางการเกษตร การให้ความรู้แก่พี่น้องเกษตรกรเป็นฐานเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ ทั้ง 4 ฐาน เป็นการถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีที่ตรงกับความต้องการของพี่น้องเกษตรกรมากที่สุด การจัดงานวันรณรงค์ลดการเผาในท้องถิ่น จะทำให้พี่น้องเกษตรกร เกิดความตระหนักถึงปัญหาผลกระทบจากการเผาในพื้นที่ ทางการเกษตรและเห็นประโยชน์ที่ได้รับจากกาลดการเผาในพื้นที่การเกษตรดังกล่าวได้มากที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: