ที่บริเวณจุดตั้งด่านเข้า-ออกหมู่บ้านบ้านคลองกล้วยเหนือ หมู่ที่ 9 ตำบลไร่อ้อย อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่จังหวัดอุตรดิตถ์ประกาศปิด “หมู่บ้าน ตามมาตรการกักกันตนเองอยู่ภายในบ้าน (Home quarantine)” หลังจากพื้นที่ดังกล่าวพบและยืนยันการติดเชื้อจากไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 3 ราย ซึ่งเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน หลังจากพ่อ ซึ่งเป็นเชฟ เดินทางกลับจากประเทศกาตาร์ ติดเชื้อเป็นรายแรก จากนั้นพบภรรยาและลูกชายวัย 9 ขวบ ติดเชื้อดังกล่าวด้วย ส่งผลให้ยอดสะสมจังหวัดอุตรดิตถ์ เฉพาะหมู่บ้านเดียวพบผู้ติดเชื้อถึง 3 ราย นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย (ส.ส.ดาวสภา ขวัญใจชาวอุตรดิตถ์) ได้ลงพื้นที่ พร้อมด้วย จนท.จาก สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อนำถุงยังชีพ ซึ่งเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในครัวเรือน พร้อมทั้ง กากหน้าอนามัย เจล ล้างมือ ถุงมือยาง อย่างละ 300 ชุด ส่งมอบให้กับ นายบุญลือ คนขยัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 เพื่อฝากส่งมอบให้กับชาวบ้านครบทุกคน คือ 265 ราย 77 ครอบครัว นอกจากนี้ประสานนายจุติ ไกรฤกษ์ รมต.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)จัดเงินสงเคราะห์ให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ทั้งหมด 77 ครัวเรือน 265 คนๆละ 2,000 บาท
จากนั้นได้ส่งมอบหน้ากากนามัย เจลล้างมือ จำนวนอย่างละ 300 ชุดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ โดยมีนายธนากร อึ้งจิตไพศาล ผู้ว่าฯจ.อุตรดิตถ์ และ นายแพทย์เกษม ตั้งเกษมสำราญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นตัวแทนรับมอบ ที่ ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ นายศรัณย์วุฒิ เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นห่วงพี่น้อง ตนขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เชื่อว่าไม่มีใครอยากติดเชื้อดังกล่าว ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำและการรักษาของทีมแพทย์ แต่มีสิ่งที่ฝากถึงพลเอกประยุทธ์ จันโอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐบาล ขอให้เข้มกับมาตรการทางป้องกันและการรักษา ไม่ใช่มาเข้มในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายหรือประกาศเป็น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และยังไม่เห็นว่ารัฐบาลตั้งเป้าหมายชัดเจน ว่าภายในระยะเวลากี่เดือนกี่ปีจะสามารถควบคุมการระบาดของโรคระบาดโควิด-19 ได้ควรระดมงบประมาณจากทุกส่วนที่มีอยู่ในแผ่นดินนี้มาเพื่อปัญหา โดยเฉพาะเงินนอกงบประมาณ 8.5 ล้านล้านบาท เอาไปไว้ที่ไหนเอากลับมาและงบประมาณในปี 2563 จะเหลือใช้เงินได้เพียงแค่ 4-5 เดือนเท่านั้น อย่างน้อย รัฐบาลจะมีเงินเหลือจากงบประมาณอย่างต่ำ 20% ควรที่จะนำกลับมาใช้ในกระบวนการป้องกัน รักษาและเยียวยาพี่น้องประชาชนเรื่องของโควิด-19 รัฐบาลควรหาทางแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน โดยเฉพาะภาวะหนี้สิน ควรมีการ หยุด หรือพักชำระหนี้ทั้งระบบ และต้องมีการเติมเงินให้ประชาชนสามารถอยู่ได้ “ฝากไปถึงบรรดาเจ้าสัวทั้งหลาย ใน ภาวะเช่นนี้ อยากให้ออกมาบริจาคหรือช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เชื่อว่า หากจะบริจาค ขนหน้าแข้งไม่น่าจะร่วง อยากจะเห็นเจ้าสัวแสดงความมีน้ำใจกับคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนอยากจะฝากไปยังบรรดาเจ้าสัวทั้งหลายและรัฐบาล หรือถ้าหากสิ่งที่ตนแนะนำมาทั้งหมดรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการได้ขอฝากข้อสุดท้ายคือนายกรัฐมนตรีควรลาออกไปเถอะ ขอผู้ที่มีความเป็นภาวะผู้นำและมีความรู้ ความสามารถ เข้ามาบริหารประเทศ เพราะช่วงนี้ประเทศเกิดภาวะวิกฤติทั้งทางด้านเศรษฐกิจและโรคระบาด ประชาชนควรที่จะ ได้รับการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องสวัสดิการให้กับคนไทยทั้งประเทศ” นายศรัณย์วุฒิกล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: