จากกรณี นางธนิสร กุยแก้ว อายุ 42 ปี ชาวบ้าน ม.8 ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ให้ข้อมูลลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยอ้างว่าได้ทำสัญญาสัมปทานทำอาหารและน้ำดื่มกับบริษัทแห่งหนึ่ง ให้ส่งข้าวกล่อง น้ำดื่มให้กับโรงงานใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก โดยมีระยะเวลาสัญญาจ้าง 5 ปี ในการผลิตข้าวกล่อง ส่งวันจันทร์ – ศุกร์ วันละ 10,000 กล่อง , น้ำดื่มบรรจุขวด ส่งวันเสาร์ – อาทิตย์ วันละ 10,000 ขวด และไข่ต้ม ส่งวันจันทร์และวันศุกร์ วันละ 30,000 ฟอง โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2561 จึงได้ทำสัญญาโดยเสียเงินค่าทำสัมปทานรวมทั้งค่าขวดบรรจุน้ำดื่ม รวม 106,000 บาท 
นางธนิสร กล่าวว่า หลังทำสัญญา ได้ลงทุนซื้ออุปกรณ์ วัตถุดิบ ในการประกอบอาหารและทำน้ำดื่มเกือบ 1 ล้านบาท โดยนำรถยนต์เข้าไฟแนนซ์ เพื่อเป็นทุนในครั้งนี้ แต่ปรากฏว่า วันแรกน้ำดื่มที่ทำส่งตามออร์เดอร์ที่กำหนด ผู้ว่าจ้างนำกลับมาส่งคืนอ้างว่าไม่ผ่านมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งต้องทำน้ำดื่มให้ใหม่เพื่อเป็นการหักลบกับค่าปรับ ส่วนข้าวกล่องเริ่มทำวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เป็นวันแรก จำนวน 10,000 กล่อง ซึ่งแล้วเสร็จตามเวลาที่ระบุในสัญญา แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงและยื้อเวลา และผู้ว่าจ้างไม่นำข้าวกล่องที่ทำไว้ไปส่งโรงงานแต่อย่างใด ทิ้งกองอยู่ที่บ้าน จนบูดเน่า 
นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้เสียหายอีก 2 รายคือ น.ส.นภัสวรรณ ยิ้มเจริญ อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 194 ถ.เกษมราษฎร์ ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ รายนี้อ้างว่าบิดาต้องเสียชีวิตหลังทราบว่าถูกต้มตุ๋นจากการทำสัมปทานข้าวกล่อง โดยได้นำหลักฐานการโอนเงินให้กับผู้ว่าจ้างมาแสดง สูญเงินไปกว่า 3 ล้านบาท และอีกรายคือ นางปรียา อ่อนอ่วมน้อย อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 350 ม.4 ต.ท่ามะเฟือง อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ อ้างถูกหลอก สั่งน้ำส้ม วันละ 1,000 แก้ว เมื่อรับน้ำส้มไปแล้วอ้างว่าไม่ได้มาตรฐาน โดย จนท.ตร.ได้ทำการสอบสวน พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
ความคืบหน้าของกรณีดังกล่าว จนท.ตำรวจ ได้คุมตัวนางธนิตา จันทร์อิ่ม (อิ๋ว) ผู้ชักชวน และ นางสาวกัญจ์หทัย สุกใส (ป้าง)ผู้ว่าจ้างหรือผู้ทำสัญญาทำข้าวกล่อง น้ำดื่ม ไข่ต้ม ตามที่ผู้เสียหายอ้างถึงมาสอบปากคำ โดยพล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ สอบสวนตัวตัวเอง พร้อมเปิดเผยว่าได้แจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกง นางธนิตา จันทร์อิ่ม ผู้ชักชวน และ น.ส.กัญจ์หทัย สุกใส ผู้ทำสัญญาแล้ว โดยได้สอบปากคำผู้เสียหายและผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งลงพื้นที่โรงานที่ผู้ทำสัญญากล่าวอ้างว่าทำข้าวกล่องส่ง ก็พบว่าไม่มีการทำสัมปทานดังกล่าว รวมทั้งเข้าตรวจค้นที่บ้านของผู้ถูกกล่าวหา ก็พบเส้นทางการโอนเงินต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกกล่าวหายังให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าผู้เสียหายผิดสัญญา ซึ่งเป็นคดีทางแพ่ง และไม่ยอมบอกว่านำข้าวไปส่งที่ไหน บอกว่าจะให้การในชั้นศาล ซึ่งตามพฤติการณ์ การสั่งทำข้าวกล่อง 10,000 กล่อง โดยไม่มีที่มาที่ไป ก็ถือว่าผิดสังเกต ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรวบรวมหลักฐานให้ครอบคลุมและรวดเร็วที่สุด เพื่อให้เรื่องนี้กระจ่างโดยเร็ว ไม่ให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก จึงอยากให้ผู้เสียหายที่เคยถูกผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 รายฉ้อโกง ก็ให้มาแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ สภ.พญาแมน ก่อนจะนำตัว 2 ผู้ต้องหา ฝากขังที่ศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ขณะเดินออกจากห้องสอบสวน นางสาวกัญจ์หทัย สุกใส ถูกควบคุมตัวออกมาก่อนเมื่อเห็นกองทัพสื่อมวลชนที่ยืนรออยู่ ส่งยิ้ม ส่วน นางธนิตา จันทร์อิ่ม ใช้กระดาษปิดบังใบหน้า แม้นักข่าวจะพยายามสอบถามราละเอียด ทั้ง 2 ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ก่อนจะถูกนำตัวขึ้นไปรถควบคุมผู้ต้องหา สภ.พญาแมน ไปยังศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ ทั้งนี้ผู้ต้องหาให้การภาคเสธขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น โดยศาลตัดค้านการประกันตัว
