การระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ธ.ก.ส.จังหวัดอุตรดิตถ์ จัดทีมแจ้งข่าวเกษตรกร พักชำระต้นเงินและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 เดือน ปล่อยกู้สินเชื่อเพื่อฟื้นฟู สร้างอาชีพ และเพื่อป้องกันการเป็นหนี้นอกระบบ วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท เผยโควิดรอบแรก พักชำระหนี้ทั้งระบบ รวม 35,191 รายจำนวน 8,742 ล้านบาท
วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 นายมงคล ผดุงไทย ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงขยายตัวมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อ เกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการและสถาบันเกษตรกร ที่ส่วนใหญ่คือ สมาชิกและลูกค้าของ ธ.ก.ส. จากนโยบายกระทรวงการคลัง ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกค้า ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 เพื่อคลายความกังวลใจและลดภาระการชำระหนี้ให้แก่ลูกค้าเป็นการชั่วคราว ในส่วนของ ธ.ก.ส.จังหวัดอุตรดิตถ์ ทั้ง 13 สาขา พื้นที่ 9 อำเภอ ได้จัดทีมประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจ เพื่อให้ลูกค้า เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สามารถเข้าร่วมโครงการและเงื่อนไข ที่ ธ.ก.ส.กำหนดขึ้น ดังนี้ 
พักชำระต้นเงินและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 เดือน นับจากครบกำหนดเดิม ซึ่งลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการตามความสมัครใจ ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม -15 สิงหาคม 2564 (สำหรับลูกค้าผู้ประกอบการและสถาบันเกษตรกร) และตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม -15 ธันวาคม 2564 (สำหรับลูกค้าเกษตรกรและบุคคล) ผู้ที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านช่องทาง BAAC Line Family /https://www.baac.or.th / Call center 02-555-0555 / ติดต่อ ธ.ก.ส.ทุกสาขา นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังมีมาตรการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู สร้างอาชีพ ให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ประกอบด้วยสินเชื่อสู้ภัยโควิด-19 สำหรับเกษตรกร ลูกจ้างภาคการเกษตรที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 และเพื่อป้องกันการเป็นหนี้นอกระบบ วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.35 ต่อเดือน ปลอดชำระคืนต้นเงินและดอกเบี้ยใน 6 เดือนแรก วงเงินกู้รายละไม่เกิน 10,000 บาท ไม่ต้องใช้หลักประกัน ระยะเวลาชำระคืนไม่เกิน 3 ปี สามารถแจ้งความประสงค์ขอใช้สินเชื่อสู้ภัยโควิด-19 ผ่าน LINE Official BAAC Family ได้ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
นอกจากนี้ยังมีโครงการสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ให้กับเกษตรกร ทายาทเกษตรกร บุคคลในครัวเรือนเกษตรกร หรือบุคคลทั่วไปที่มีแผนในการประกอบอาชีพเกษตรตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเลี้ยงชีพในครัวเรือน วงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย ,มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ (สินเชื่อฟื้นฟู) วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท โดยสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องต้นทุนต่ำให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจที่มีศักยภาพ แต่ประสบปัญหาสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจและลดผลกระทบต่อการจ้างงาน ลูกค้าเดิม วงเงินกู้ไม่เกิน 150 ล้านบาท ลูกค้าใหม่วงเงินกู้ไม่เกิน 20 ล้านบาท ,โครงการพักทรัพย์พักหนี้ วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจที่มีศักยภาพและยังดำเนินธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงและจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวนาน ,สินเชื่อเสริมแกร่ง SME เกษตร วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนหรือ ค่าลงทุนในการประกอบธุรกิจ และโครงการสินเชื่อนวัตกรรมดี มีเงินทุน วงเงินรวม 60,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรและบุคคลทั่วไปที่มีแนวคิดในการประกอบอาชีพการเกษตรหรือนอกภาคการเกษตรที่ใช้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยี ในลักษณะ Smart Farmer ผู้ที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อได้ผ่านช่องทาง LINE Official : BAAC Family และรับนัดหมายผ่าน SMS เพื่อจัดทำสัญญาต่อไป หรือติดต่อได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ 
นายมงคล กล่าวว่า ฤดูการผลิตที่ผ่านมา รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับภาคการเกษตร ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งภาวะเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติและ โควิด-19 รอบแรก ผ่าน ธ.ก.ส. หลายโครงการ ซึ่งจังหวัดอุตรดิตถ์ ในส่วนของโครงการพักชำระหนี้ทั้งระบบ รวม 35,191 ราย จำนวน 8,742 ล้านบาท ,โครงการสินเชื่อสำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 รวม 8,480 ราย จำนวน 65 ล้านบาท ,โครงการสินเชื่อพอเพียงเพื่อเลี้ยงชีพ 192 ราย จำนวนเงิน 8.76 ล้านบาท ,โครงการสินเชื่อระยะสั้นตามฤดูการผลิตใหม่ 298 ราย จำนวนเงิน 13.59 ล้านบาท ,โครงการสินเชื่อ SMEs (soft loan) 19 ราย จำนวนเงิน 11.12 ล้านบาท ,โครงการประกันรายได้รวม ปีการผลิต 2563/64 โอนแล้ว 465,490,374.53 บาท ,ค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพข้าว 46,904 ราย จำนวน 504,158,782.50 บาท ,เงินเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไยปี 2563 จำนวน 646 ราย 3,979,230.00 บาท และโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2564 จำนวน 350,602 ไร่
