เมื่อเวลา 11.15 น.วันที่ 28 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายพิษณุปัญญา เต๊ปปิ่น หรือ แจ็ค อายุ 40 ปี ชาว อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ผู้ต้องหาหนีหมายจับศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ 2 หมายจับ คือ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย พื้นที่ สภ.ท่าปลา และสภ.ลับแล หลังก่อเหตุชิงอาวุธปืนพกประจำกายของ จ.ส.ต.ชิติพัทร์ กันน้ำอ่าง ตำรวจสายงานจารจร หมายเลข 6128 สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ขณะปฏิบัติหน้าที่พบคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮ้อนด้า เอ็มเอสเอ็ก 125 ซีซี ดัดแปลงสภาพ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน บริเวณถนนบรมอาสน์ เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจ แต่คนร้ายไม่ยอมพยายามเร่งเครื่องหลบหนี จึงไล่ตามจนกระทั่ง มาถึงบริเวณบริเวณทางตัดรถไฟ แยกบ้านเกาะ ถนนเขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ รถคนร้ายเสียหลักล้ม จนท.ตำรวจจึงเข้ากระชากตัว แต่คนร้ายขัดขืนต่อสู้แย่งอาวุธปืนของ จนท.ตำรวจ จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนดังกล่าวจี้ชิงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีขาว หมายเลขทะเบียน 1กค 7129 อุตรดิตถ์ ของประชาชนหลบหนีไปจอดไว้ที่ลานวัดธรรมาธิปไตย เขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ห่างจากจุดก่อเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ก่อนจะขอให้เพื่อน 2 คน มารับและพาหนีไปยังพื้นที่ อ.เนินมะปรางค์ จ.พิษณุโลก ด้วยรถยนต์กระบะ แบบแค๊ป ยี่ห้อ มิสซูบิชิ สีดำ แบบแต่งซิ่ง ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 6 ทำการจับกุมได้เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา และได้ขยายผลเพื่อติดตามไปยึดอาวุธปืนของกลางที่คนร้ายได้แย่งชิงไปจาก จนท.ตำรวจ โดยได้นำซุกซ่อนไว้บริเวณเล้าไก่ ใช้ท่อนเหล็กทับไว้ ที่บ้านเลขที่ 59/6 ม.10 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก
เมื่อเวลา 11.15 น.วันที่ 28 สิงหาคม 2566 พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 , พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป็กทอง ผบภ.ภจ.ว.อุตรดิตถ์ และ พ.ต.อ.สมเกษม จารักษ์ ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ พร้อมชุดสืบสวนตำรวจภูธร ภาค 6 ,ชุดสืบสวน ภ.จว.อุตรดิตถ์ และ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ นำตัวนายพิษณุปัญญา เต๊ปปิ่น หรือ แจ็ค ผู้ต้องหา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ 2 จุด โดยจุดแรก ที่วัดธรรมาธิปไตย เทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหานำรถจักรยานยนต์ที่จี้ชิงจากชาวบ้านมาจอดทิ้งไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นไปยังจุดที่ก่อเหตุแย่งอาวุธปืนและจี้ชิงรถ จยย.ชาวบ้าน ทางตัดรถไฟแยกบ้านเกาะ ถนนเขตเทศบาลเมืองอุตรดิตถ์ โดยจุดนี้ จ.ส.ต.ชิติพัทร์ กันน้ำอ่าง ตำรวจสายงานจารจร หมายเลข 6128 สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ซึ่งถูกแย่งอาวุธปืน ได้ปรากฏตัวและปฏิบัติหน้าที่งานจารจร ขณะนำผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพด้วย เนื่องจากการจราจรจุดดังกล่าวคับคั่งมาก เมื่อทำแผนเสร็จเรียบร้อยทั้ง 2 จุดใช้เวลาประมาณ 20 นาที นายแจ็ค ผู้ต้องหา ได้ยกมือไหว้ขอโทษ เสียใจกับสิ่งที่ก่อขึ้น กับ จ.ส.ต.ชิติพัทร์ กันน้ำอ่าง ขณะที่ จ.ส.ต.ชิติพัทร์ รับไหว้จากผู้ต้องหา ด้านนายแจ็ค ผู้ต้องหา กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า เสียใจกับสิ่งที่ก่อขึ้น รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา
พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 กล่าวว่า พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช..ภ.๖ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมบูรณาการประสานกำลัง ทั้ง กก.สืบสวน ภ.จว.อุตรดิตถ์ , ชุด ศอ.ปส.ภ.จว.อุตรดิตถ์ ,ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ , ชุด ปส.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ , ชุด บก.สส.ภ.6 , กก.สืบสวน ภ.จว.พิษณุโลก ออกสืบสวนติดตามคนร้าย เช็คเส้นทางการหลบหนี บุคคล และยานพาหนะ ใช้ในการหลบหนี ทั้งกล้องวงจรปิดส่วนราชการและภาคเอกชน ห้างร้านต่างๆ จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ขณะหนีกบดานที่บ้านเพื่อน ม.2 ต.เนินมะปราง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ส่วนอาวุธปืนได้นำไปซุกซ่อนไว้บริเวณเล้าไก่ ใช้ท่อนเหล็กทับไว้ ที่บ้านเลขที่ 59/6 ม.10 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก ซึ่ง จนท.ตำรวจได้ตรวจยึดกลับมาได้แล้ว สาเหตุผลที่คนร้ายนำรถ จยย.ที่ชิงมาจากชาวบ้านจอดทิ้งไว้วัดธรรมาธิปไตย เนื่องจากล้อด้านหลังชำรุดส่ายไปมาจึงไปต่อไม่ไหว จากนั้นได้โทรศัพท์ให้เพื่อนนำรถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ มารับเพื่อขอให้ไปส่งที่ จ.พิษณุโลกเพื่อหลบหนีต่อไป หลังทำแผนนำตัวไปยัง สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อส่ง พ.ต.ท.นฤมล คนชม สารวัตรเวร สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อดำเนินคดีข้อหาต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย และชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยผู้ต้องหาก็รับสารภาพทุกข้อกล่าวหาเช่นเดียวกัน
