วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ นายวิทูล นะถา ประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินให้ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการ สร้างเขื่อนสิริกิติ์ และตัวแทนพี่น้องประชาชน อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ กว่า 30 คน ซึ่งเป็นประชาชนที่อพยพจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ปี 2511 รวมกลุ่มชูป้ายข้อความ มีข้อความ เกี่ยวกับการเรียกร้องขอเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน จาก น.ค.1 เป็น น.ค.2 และ น.ค.3 เพื่อออกเป็น โฉนด หลังจากเสียสละที่อยู่อาศัยที่ดินทำกินอันอุดมสมบูรณ์ อพยพเพื่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ มานานถึง 55 ปี ยังไม่ได้รับเอกสารสิทธิ์เป็นมรดกให้ ลูกหลาน โดยจุดดังกล่าวเป็นเส้นทางที่ขบวนรถยนต์ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ เดินทางลงพื้นที่ ณ ที่ว่าการอำเภอน้ำปาด อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ เพื่อติดตามความคืบหน้า โครงการสำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มตัวแทนน้องประชาชน อ.ท่าปลา ชูป้ายข้อความเชิงสัญลักษณ์ “ช่วยด้วย ชาวท่าปลารอมา 56 ปียังไม่มีโฉนด” “นำเรื่องเข้า ครม.เฉพาะ 1013 ราย โดยเร็ว” “น.ค.1 ไม่เอา เราจะเอาโฉลด” โดยมี จนท.ฝ่ายปกครอง ,จนท.ตำรวจ และสันติบาล สังเกตการณ์ ขอความร่วมมือรวมกลุ่มอย่างสงบ ทั้งนี้ น.ส.รสรินทร์ ศรัณย์เกตุ ลูกสาว นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีต ส.ส.จังหวัดอุตรดิตถ์ และ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ได้เข้าพูดคุย ชี้แจ้งต่อ จนท.ถึงเหตุผลการรวมกลุ่มของพี่น้อง อ.ท่าปลา เพื่อขอให้ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนที่เสียสละเพื่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ จบลงที่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ขอโฉนดให้ชาวท่าปลา 1,013 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่ขบวนรถยนต์ของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เคลื่อนผ่านเข้าสู่ประตูรั้วที่ว่าการอำเภอน้ำปาด และผ่านจุดที่ชาวบ้านรวมกลุ่มชูป้าย ตัวแทนชาวบ้านอำเภอท่าปลา ต่างตะโกน “นายกฯช่วยด้วย นายกฯช่วยด้วย” จากนั้นได้ส่งตัวแทนยื่นหนังสือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ออกหน่วยเคลื่อนที่ ถึงนายกรัฐมนตรี ขอเร่งนำเรื่องที่ดินทำกินที่อยู่อาศัยของชาวอำเภอท่าปลา เข้าสู่ ครม. น.ส.รสรินทร์ ศรัณย์เกตุ ที่ปรึกษา ประสานงาน และ ติดตามเรื่องการแก้ไขปัญหาที่ดินให้กับราษฎรได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า ตัวแทนชาว อ.ท่าปลา ซึ่งเสียสละที่ดินที่อยู่อาศัยอันอุดมสมบูรณ์เพื่อการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ชาวบ้านจึงขอใช้โอกาสนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ รวมกลุ่มขอให้เร่งนำเรื่องการออกโฉนดที่ดินทำกินเข้า ครม. เพื่อให้สามารถดำเนินการออกเอกสารสิทธิ์ ให้กับพี่น้องประชาชน อ.ท่าปลา
ข่าวน่าสนใจ:
- กาญจนบุรี พิธีตักบาตรพระ 10,000 รูป ฉลองตั้งเมือง 193 ปี พร้อมอุทิศส่วนกุศลแด่บรรพบุรุษผู้มีพระคุณต่อประเทศชาติ
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- โหดเหี้ยม!หนุ่มถูกมีดฟันยับดับกลางถนน คาดทะเลาะในวงเหล้า
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
“ชาว อ.ท่าปลา ยอมเสียสละที่ดินอันอุดมสมบูรณ์เพื่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ให้คนไทยทั้งประเทศได้มีไฟฟ้าใช้ ด้วยการยอมย้ายถิ่นที่อยู่อาศัยเดิม เข้าไปอยู่ที่ดินตามที่รัฐจัดสรรให้ ในเขตพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน โดยหน่วยงานภาครัฐได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าใช้ทำประโยชน์ในที่ดินเพื่อการครองชีพหรือ น.ค.1 ซึ่ง น.ค.1 จะถูกปรับเปลี่ยนเป็น น.ค.2 และ น.ค.3 หรือโฉนดภายในระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2511 จนถึงปัจจุบันนี้ นับเป็นเวลาถึง 55 ปีแล้ว ราษฎรที่ได้รับหนังสือ น.ค.1 รวมทั้งสิ้น 1,013 ราย จาก 5 ตำบล 12 หมู่บ้าน อ.ท่าปลา ที่ดิน 6,200 ไร่ ยังไม่ได้รับเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดินทำกินตามที่รัฐบาลรับปาก” น.ส.รสรินทร์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พบปะพี่น้องประชาชน ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอน้ำปาด ได้กล่าวถึง การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าว ที่เป็นปัญหาหมักหมมมาหลายปี บางท่านที่ทำมาหากินได้เสียชีวิตไปแล้ว รัฐบาลนี้จะดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ได้ และจะต้องมีคำตอบชัดเจนภายใน 6 เดือน ในการผลักดันนิคมสร้างตนเองให้เกิดขึ้น ให้สามารถทำมาหากินอย่างสมศักดิ์ศรี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: