นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แจ้งข่าวดี พี่น้อง อสม.ทั่วประเทศ หลังรัฐบาล กระทรวงสาธารณะสุข เพิ่มค่าป่วยการ อสม.เป็น 2,000 บาท คาดเริ่มจ่ายได้ พ.ค.67 นี้ และยังเบิกย้อนหลังตั้งแต่ ต.ค.66 ได้
ที่โรงพยาบาลพิชัย จ.อุตรดิตถ์ น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ ส.ส.เขต 1 , นายวารุจ ศิริวัฒน์ ส.ส.เขต 2 และ นายวรี เล็กอุทัย ส.ส.เขต 3 จ.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ.โอภาส การณ์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณะสุข,นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าฯจ.อุตรดิตถ์,นพ.อี๊ดวันยัง ยงย่วน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์,ข้าราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และ พี่น้องประชาชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ให้การต้อนรับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมคณะ โอกาสดินทางเป็นประธานเปิดอาคารผู้ป่วยนอก(ตึกใหม่) โรงพยาบาลพิชัย เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการรองรับประชาชนเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า พร้อมทั้งใช้ระบบเทคโนโลดิจิทัลในการให้บริการตามแนวทางโรงพยาบาลอัจฉริยะ (Smart Hospital) ช่วยประชาชนรับบริการสะดวกรวดเร็ว ลดการรอคอยรองรับนโยบายยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เฟส 2 ที่ จ.อุตรดิตถ์ เริ่มช่วงเดือน ต.ค.67 เป็นต้นไป
นพ.ชลน่าน พร้อมคณะเดินทางมาถึง โรงพยาบาลพิชัย ได้สักการะอนุสาวรีย์ท่านพ่อพระยาพิชัยดาบหัก ก่อนจะร่วมประกอบพิธีสงฆ์ และเปิดแพรคลุมป้าย อาคารผู้ป่วยนอก(ตึกใหม่) โดย พี่น้อง อสม.อำเภอพิชัยจัดเตรียมพวงมาลัยดอกดาวเรืองมอบให้กับ นพ.ชลน่าน เพื่อเป็นการต้อนรับ
นพ.ชลน่าน ได้กล่าวพบปะพี่น้องประชาชน และ อสม.ที่มาร่วมกิจกรรม ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายสนับสนุนให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับพัฒนาศักยภาพการบริการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งนำเทคโนโลยีมาช่วยในการจัดบริการให้เป็นโรงพยาบาลอัจฉริยะ(Smart Hospital) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพใกล้บ้าน โดยในส่วนของ รพ.พิชัย เป็นโรงพยาบาลชุมชน ขนาด 70 เตียง ดูแลประซากรในพื้นที่กว่า 70,000 คน ปัจจุบันมีผู้ป่วยนอกเข้ารับบริการเฉลี่ย 400 คนต่อวัน จึงได้สร้างอาคารผู้ป่วยนอก (ตึกใหม่) เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 ชั้น งบประมาณก่อสร้าง 67,020,300 บาท สำหรับให้บริการผู้ป่วยนอกและทันตกรรม รองรับบริการผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้นเป็น 1,000 คนต่อวัน และยังมีการพัฒนาตามแนวทางโรงพยาบาลอัจฉริยะ ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการให้บริการเป็น Smart OPD ช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการบริการ รวมทั้งลดความแออัด ลดระยะเวลารอคอย และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประชาชน พร้อมที่จะรองรับนโยบายยกระดับ 30 บาท รักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว เฟสที่ 2 นี่ด้วย
“สำหรับข่าวดีของพี่น้อง อสม.ทั่วประเทศจำนวน กว่า 1.07 ล้านคน มั่นในว่าเดือน พ.ค.67 นี้ ค่าป่วยการของ อสม. ที่รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และกระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งงบประมาณรายจ่ายปี 2567 ซึ่งได้ผ่านสภา ผู้แทนราษฎรไปแล้ว วันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา และเชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาข้าสู่ความพิจารณาของวุฒิสภา มั่นใจว่าวันที่ 1 พฤษภาคม นี้ น่าจะมีการประกาศใช้กฎหมายงบประมาณ ปี 67 ซึ่งมีเงินค่าป่วยการของพี่น้อง อสม.อยู่ในนั้น 24,000 ล้านบาท เดือนละ 2,000 บาท และยังได้รับเงินตกเบิกตั้งแต่เดือน ตุลาคม 66 – เมษายน 67 อีก 7 เดือน จึงขอแสดงความยินดีกับพี่น้อง อสม.ที่ทุ่มเททำงานเพื่อพี่น้องประชาชนชุมชนอย่างดียิ่ง ทั้งนี้ อสม.ยุคปัจจุบัน สนับสนุนให้ใช้แอปพลิเคชัน “Smart อสม.” เป็นเครื่องมือในการทำงานและดูแลสุขภาพทั้งของตนเองและประชาชน นำไปสู่ชุมชนพึ่งตนเอง คนรักษ์สุขภาพ ได้อย่างยั่งยืน” นพ.ชลน่านกล่าว
จากนั้น นพ.ชลน่านและคณะ ได้เยี่ยมให้กำลังใจทีมงานเชื่อมประสานใจ (Care D+) ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน Smart Hospital ก่อนจะเดินทางไปยังโรงพยาบาลทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ เพื่อเยี่ยมชมให้กำลังใจบุคลากรโรงพยาบาล และ พี่น้อง อสม.อำเภอทองแสนขัน โดยมีนายวารุจ ศิริวัฒน์ ส.ส.เขต 2 จ.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทยนำคณะให้การต้อนรับ 
