นายพีระศักดิ์ พอจิต อดีตรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และกำลังจะกลายเป็นอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พร้อมนางพิณทอง พอจิต ภรรยา นายพิชญุตม์ พอจิต อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อุตรดิตถ์ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ลูกชาย น.ส.พัฐศรา พอจิต รองอัยการจังหวัดเชียงใหม่ และ น.ส.พณัศยา พอจิต ลูกสาว เอาฤกษ์เอาชัยในวันเกิดของนายพีระศักดิ์ วันที่ 5 พฤษภาคม ลงมือปลูกทุเรียนต้นแรกจากทั้งหมด 1,000 ต้น บนพื้นที่กว่า 22 ไร่ ของหมู่ 11 ต.ฝายหลวง อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระแสเรื่องของทุเรียนมาแรงอย่างมาก โดยประเทศจีนนั้นถือว่า เป็นตลาดใหญ่ที่สุดของทุเรียน และพื้นที่ปลูกก็ไม่ไม่กี่ประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าประเทศไทยก็ถือว่าเป็นผู้ผลิตทุเรียนประเทศต้น ๆ ที่ผลิตทุเรียนส่งออกไปยังกลุ่มผู้บริโภคชาวจีน ตำแหน่ง สว.ของตนก็กำลังจะครบวาระในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ แน่นอนว่า เวทีการเมืองระดับประเทศไม่สามารถลงรับสมัครเลือกตั้งได้อีกเป็นเวลา 2 ปี ดังนั้นในช่วงเวลา 2 ปีที่ว่าง ๆอยู่ น่าจะมีกิจกรรมอะไรทำ และตนก็มีที่ดินจำนวน 22 ไร่ใน ต.ฝายหลวง ซึ่งเหมาะกับการทำการเกษตรมากกว่าสร้างที่อยู่อาศัย อย่างที่บอกว่ากระแสทุเรียนมาแรงมาก จึงปรึกษากับครอบครัวและครอบครัวก็เห็นพ้องตรงกันว่า ปลูกทุเรียน 1,000 ตน และลงมือปลูกไปแล้วเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันเกิดของตัวเอง
“หลายฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เคยสนับสนุนด้านการเมืองในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ หลังครบวาระ สว.แล้วจะทำอะไรต่อ หลายคนก็ให้ลงเล่นการเมืองระดับท้องถิ่น อย่างนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุตรดิตถ์ ซึ่งก็จะใกล้ครบวาระแล้วเช่นเดียวกัน ซึ่งผมได้ตอบกับกลุ่มผู้สนับสนุนว่า วันนี้ยังไม่คิดที่จะทำอะไรด้านการเมืองรับท้องถิ่น ของโฟกัสไปที่การปลูกทุเรียนก่อน เพราะเป็นการเริ่มต้นทำการเกษตรครั้งแรกของผมเอง เพราะที่ผ่านมาเคยรับราชการเป็นอัยการจังหวัด ทำงานด้านการเองระดับท้องถิ่น และระดับชาติ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมากในระดับหนึ่ง และการทำการเกษตรโดยการปลูกทุเรียนครั้งนี้ ก็หวังที่จะยึดเป็นอาชีพหลังครบวาระ สว.หากประสบผลสำเร็จก็อาจจะกลายเป็นเกษตรกรไปเลยก็ได้” นายพีระศักดิ์ กล่าว
สำหรับนายพีระศักดิ์ ปัจจุบันอายุ 64 ปี เคยลงรับสมัคร ส.ส.อุตรดิตถ์ เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ แต่สอบตก เคยดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.อุตรดิตถ์ 1 สมัย เคยดำรงตำแหน่ง สว.2 สมัย และถูกยึดอำนาจทั้ง 2 สมัยเช่นเดียวกัน เคยดำรงตำแหน่งรองประธานสภา สนช. และตำแหน่งสุดท้ายการเมืองระดับชาติซึ่งจะครบวาระในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้คือ สว.แบบสรรหา 
