วันที่ 24 ส.ค.2567 ร.ต.ท.ฐิติวัฒน์ อุดเลิศ ร้อยเวร สภ.เมืองอุตรดิตถ์ รับแจ้งเหตุรถกระบะพุ่งตกคลองน้ำ ที่หน้าวัดดอยแก้ว ม.15 ต.งิ้วงาม อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์ (มอส.)ที่เกิดเหตุพบประชาชนจำนวนมากมุ่งดูเหตุการณ์ เป็นคลองส่งน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน มีความลึกประมาณ 10 เมตร ระดับน้ำสูงประมาณ 2 เมตร พบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน อุตรดิตถ์ สภาพรถโผล่ขึ้นเหนือน้ำในคลองเฉพาะส่วนหน้าพาดกับคันดินสภาพพังยับเยิน ฝากระโปรงและเครื่องรถหลุดออกจากตัวรถ กระจกหน้ารถแตกทั้งแผ่น พบเท้าของผู้เสียชีวิตโผล่ออกจากกระจกประตูด้านคนขับ เจ้าหน้าที่เร่งลงสำรวจพบผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถเป็นชาย 3 ราย แต่ไม่สามารถนำศพออกจากรถได้ เนื่องจากจมอยู่ในน้ำ
จากนั้นใช้รถยกในการช่วยลากดึงรถกระบะให้พ้นระดับน้ำในคลอง ก่อนที่กู้ภัยเร่งนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดออกจากรถ สภาพเปียกชุ่มน้ำ อยู่ที่นั่งคนขับ 1 คน และในส่วนของแคปหลังคนขับ 2 คน เป็นชายทั้งหมด แพทย์เวรโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นเสียชีวิตจากการจมน้ำ และภายในรถพบเพียงเอกสาร หนังสือสำคัญแสดงหลักฐานการเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายรักษาความสงบของ นายมานัส (ขอสงวนนามสกุล) หมู่ 6 ต.น้ำริด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ส่วนเอกสารของผู้เสียชีวิตไม่พบแม้แต่คนเดียว
เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตรวจสอบตามหาญาติผู้เสียชีวิตทราบว่า รถคันดังกล่าวมี นายบุญเกต (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี เป็นคนขับ และด้านหลังคนขับในแคป คือ นายมานัส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี เป็นผู้ช่วยใหญ่บ้าน หมู่ 6 ฝ่ายรักษาความสงบ และเป็นเจ้าของรถยนต์ และ นายวิรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี โดยทั้งหมดเป็นชาวตำบลน้ำริด อ.เมืองอุตรดิตถ์
จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุ เวลาประมาณ 08.00 น. ทั้ง 3 คน ได้แวะหาคนรู้จักที่แปลงนาหมู่ 4 ต.งิ้วงาม ก่อนจะขับรถออกมาเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็น ถนน 4 แยก เชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ทางเข้าวัดดอยแก้ว และ คันคลองส่งน้ำ พบรอยเบรกเป็นทางยาวก่อนจะพุ่งตกคลอง สันนิฐานเบื้องต้นผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน น่าจะขับรถจากถนนฝั่งตรงข้ามคลองส่งน้ำ เมื่อมาถึงเป็นทางแยกรถเกิดเสียหลักไม่สามารถควบคุมรถได้ ส่งผลให้พุ่งตกลงไปในคลองจมน้ำผู้เสียชีวิตทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนศพนำผ่าพิสูจน์ ที่แผนกนิเวช โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ และมอบทางญาติประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
