นายอนันต์ ตั่นฉ้วน เกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากจังหวัดอุตรดิตถ์ และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ประกอบด้วย จังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ และตาก จัดทำโครงการสร้างสรรค์การท่องเที่ยวและบริการมูลค่าสูงบนฐานนิเวศและประวัติศาสตร์ โดยมอบหมายให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพิษณุโลก ดำเนินการจัดงาน “Thailand Banana World & OTOP Indo-China Expo 2019” ขึ้น เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ให้สินค้ากล้วย ผลิตภัณฑ์กล้วยและผลิตภัณฑ์ชุมชนที่โดดเด่นของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ให้เป็นที่รู้จัก ได้รับการส่งเสริมในเชิงการค้า มีช่องทางการตลาดทั้งภายในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 และนอกกลุ่มจังหวัด รวมทั้งต่างประเทศ โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้น 26-30 สิงหาคม นี้ ณ ลานหน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก
ในส่วนของจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นหนึ่งจังหวัดที่เกษตรกรให้ความสนใจปลูกกล้วยและรวมกลุ่มแปรรูปกล้วย เพื่อสร้างรายได้ มีพื้นที่ปลูกกล้วยส่วนใหญ่คือ กล้วยน้ำว้าพันธุ์มะลิอ่อง หรือ กล้วยภูเขา เนื่องจากปลูกตามภูเขาสูง และเป็นกล้วยอินทรีย์ปลอดสาร มากถึง 13,000 ไร่ จากเกษตรกร 1,300 คน ผลผลิตประมาณ 21,000 ตัน/ปี หรือ 1800 กิโลกรัม/ไร่ ราคาจำหน่ายสดกิโลกรัมละ 8 บาท สร้างรายได้มากถึง 170 ล้านบาท/ปี นอกจากนี้ยังมีกลุ่มวิสาหรกิจชุมชนแปรรูปกล้วยรูปแบบต่างๆหลากหลาย และเป็นแบรนของจังหวัดอุตรดิตถ์ มากถึง 44 แห่ง จึงทำให้มีผลผลิตกล้วยทั้งสดและแปรรูปส่งขายทั้งในและต่างประเทศ ตลอดทั้งปี
ทั้งนี้การจัดงาน “Thailand Banana World & OTOP Indo-China Expo 2019” หรือเทศกาลกล้วยโลก ที่จัดขึ้นจังหวัดพิษณุโลก 5 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง จึงจับมือผลักดันกล้วยไทยสู่สากล ระดมกิจกรรมหลากหลาย เพื่อประชาสัมพันธ์กล้วยและสินค้า OTOP มากกว่า 100 คูหา อีกทั้งการแสดงวัฒนธรรมวิถีชีวิต “คนกับกล้วย” การจัดแสดงเทคโนโลยีนวัตกรรมพร้อมทั้งงานวิจัยเกี่ยวกับกล้วย การแสดงสายพันธุ์กล้วย การเสวนาทางวิชาการ เรื่อง “เส้นทางกล้วยภาคเหนือตอนล่าง 1 สู่สากล” การอบรม หัวข้อ “เรื่องกล้วย ๆ ก็รวยได้” การเจรจาจับคู่ธุรกิจ Business Matching Banana & OTOP การประกวดธิดา การประกวดอาหารที่ทำจากกล้วย การประกวดกล้วย เป็นต้น 
นับเป็นเริ่มต้นเปิดโลกของผลิตภัณฑ์กล้วยไทยสู่ตลาดสากล เชื่อมโยงศักยภาพของ Value Chain ของผลิตภัณฑ์กล้วยในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 อาทิ สายพันธุ์กล้วย การเพาะปลูกกล้วย การผลิตและแปรรูป ตลอดจนการท่องเที่ยวชุมชนผลิตกล้วยต่าง ๆ ตลอดจนยังเสริมจุดแข็งที่มีศักยภาพทางการเกษตรและการท่องเที่ยว ต่อยอดฐานความรู้และเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลผลิต รวมทั้งใช้ความได้เปรียบของที่ตั้งเชื่อสู่ชายแดน ขับเคลื่อนให้กลุ่มจังหวัดภาคเหนือล่าง 1 เป็นศูนย์กลางการบริการ สี่แยกอินโดจีนเชื่อมโยงเศรษฐกิจ สังคมและบริการของภูมิภาค นำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ต่อไป
