หลังจาก ’ระย้า’ ประเสริฐ พงษ์ธนานิกร หัวจักรใหญ่ค่ายรถไฟดนตรี ค่ายเพลงเก่าแก่อายุกว่า 40 ปีพร้อม 9 ศิลปินประกาศขอพลิกรูปแบบการทำเพลงให้แตกต่างจากแบบเดิม ๆ เพลงเพื่อชีวิตต้องปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยเป็นสากลไม่ฝืนความรู้สึกคนฟัง
” เพลงเพื่อชีวิต มีรูปแบบที่ซ้ำเดิมมานานพอสมควร บางทีแค่ขึ้นอินโทรมา ก็ไม่อยากฟังต่อแล้ว โลกสมัยนี้เปลี่ยนไปเร็ว ดนตรีก็เคลื่อนไหวไปตลอดเวลา อย่างเพลงอีสานสมัยก่อน ดนตรีเป็นแบบพื้นบ้าน เป็นลูกทุ่ง ปรับเปลี่ยนเป็นอีสานอินดี้ ก็คือเพลงสไตล์อีสานที่ใส่ดนตรีป๊อปเข้าไป เพลงเพื่อชีวิตก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เป็นสากล ให้เข้ายุคสมัยมากขึ้น ทั้งดนตรีและเนื้อหา ศิลปินเพื่อชีวิตทั้ง9คน ที่กลับมาทำงานกับผม เช่น อ้อย กะท้อน, เดวิด, พิทักษ์, สมชาย ใหญ่, หนุ่มสกล, รอน อรัณย์,เบียร์ วรวุธ, โจ สูงเนิน, บัวลอย มีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จมาแล้ว จะมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนของตัวเอง ถ้าจะปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย จึงต้องมีสะพานเชื่อมกันให้ได้ ด้วยสีสันใหม่ที่ทันสมัย แต่ไม่ฝืนความรู้สึกของผู้ฟัง
การทำเพลงไม่ยากเลย แค่มีเงิน มีเพลง มีนักร้องก็ทำได้แล้ว แต่การทำเพลงให้เป็นที่นิยม ให้ขายได้ มันโคตรยากเลย ใครๆก็ฟังเพลงเป็น ได้ยินปุ๊บก็รู้ได้ทันทีว่า ดีหรือไม่ดี ชอบหรือไม่ชอบ ฟังแล้วก็อาจจะพูดว่า “ถ้าเป็นเราจะไม่ทำแบบนี้” เปรียบเหมือนคนดูมวยข้างเวที พูดอะไรก็ได้ เพราะไม่ได้ขึ้นไปชกเอง ศิลปินที่ทำงานกับค่าย ได้เปรียบกว่าศิลปินอิสระ เพราะมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญช่วยกลั่นกรองปรับปรุงงานให้สมบูรณ์แบบ มีการวางแผนโปรโมชั่น มีสายสัมพันธ์กับสื่อทุกแขนง แล้วยังช่วยรองรับค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้น โดยศิลปินไม่ต้องรับภาระ ในกรณีที่ไม่ประสบความสำเร็จ ยุคนี้มีศิลปินอิสระมากมาย แต่มีน้อยมากที่จะฝ่าด่านไปได้
ส่วน เพลงดังต่างๆของค่ายรถไฟดนตรี เดิมทีไม่อนุญาตให้คนภายนอกนำไป Cover ร้องใหม่ แต่ตอนนี้กำลังพิจารณาว่า จะมีการปรับเปลี่ยนอย่างไร หรือไม่. เบื้องต้นผมกำลังให้ศิลปินในค่ายนำมาร้องใหม่ ตามสไตล์ของแต่ละคนก่อนในช่วงแรกเพื่อรอเพลงใหม่ของแต่ละคน “ระย้ากล่าวทิ้งท้าย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: