จากกรณีที่หน่วยงานภาครัฐได้มีมาตรการคุมเข้มรถแห่เครื่องเสียงเคลื่อนที่ หลังจากเกิดปัญหากลุ่มวัยรุ่นที่ไปรวมตัวกันเต้นรำสนุกสนานตามรถแห่ในงานต่างๆ ก่อเหตุทะเลาะวิวาทยกพวกชกต่อยกันในหลายพื้นที่นั้น
ล่าสุด“หนิง ดาวเคียงเดือน” หรือ ทรงวุฒิ สะอิ้งรัมย์ เจ้าของรถแห่ดาวเคียงเดือน บุรีรัมย์ เป็นประธานชมรม “รถแห่ดนตรีสดแห่งประเทศไทย” ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า
“ รถแห่ตอนนี้ก็ต้องขออนุญาตตามขั้นตอนคือ การขออนุญาตใช้เสียง ขออนุญาต ขอกำลังรักษาความปลอดภัยกันทะเลาะวิวาท การจัดกำลังมารักษาความปลอดภัยอันนี้เห็นด้วย แต่ไม่ควรโทษรถแห่หรือบอกว่ารถแห่เป็นต้นเหตุการตีกันอันนี้ผมไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ คนมันจะตีกันดูหนังกลางแปลงมันก็ตีกัน พอมีมาตรการออกมากลุ่มผู้ประกอบการรถแห่ก็เริ่มมีผลกระทบประมาณ 20% การตีโจทย์ของผู้ใหญ่ในบ้านเมือง มันไม่ถูกจุด รถแห่อยู่คู่กับคนอีสานมา 30 กว่าปีแล้ว ผมเกิดมาก็เห็นรถแห่แล้ว แต่ระบบเสียงรถแห่สมัยนั้นอาจจะไม่ดังเหมือนสมัยนี้ เมื่อก่อนมีไม่มากมีบุรีรัมย์ ชัยภูมิ จังหวัดละ 10 ครั้ง
ทุกวันนี้มันขยายวงกว้าง ทุกวันนี้ทำแข่งขันกัน แห่ตามซอกซอยบ้านใกล้อาจได้รับความเสียหาย กระจกแตก หลอดไฟแตก ชาวบ้านเขาก็อาจไม่พอใจ ผมเป็นห่วงเรื่องนี้แหล่ะ ระบบเสียงดังจนเกินไป ถ้าที่โล่งๆไม่มีปัญหา ตอนนี้มีการเอารถ 10 ล้อมาทำเป็นรถแห่ก็มี ผมก็คิดๆอยู่ ที่เขาจะเอารถ 10 ล้อมาทำเพราะเกี่ยวกับเรื่องน้ำหนักก่อนหน้านี้เขาใช้รถ 6 ล้อมาทำรถแห่ น้ำหนักมันเกิน 15 ตัน รอทางผู้ใหญ่หาแนวทางกันอยู่ ตอนนี้มีชัยภูมิ ขอนแก่น สารคาม เขาจดถูกต้องคือความสูงไม่เกิน 4 เมตร ยื่นออกจากล้อได้ไม่เกิน 15 เซนติเมตร แต่ส่วนมากสูงเกิน อันนี้ก็จะไม่ผ่าน”
