นายหั่น พัฒนพันธ์ อายุ 80 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ ม. 3 ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง เปิดเผยว่าตนเองและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างในเรื่องที่ดินทำกิน ซึ่งเป็นสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันและพืชผลทางการเกษตรอื่น ๆ ได้มีกลุ่มนายทุนในพื้นที่ร่วมกับข้าราชการในพื้นที่ ทำการบุกรุกพื้นที่ของตนเองและพื้นที่ใกล้เคียง โดยการไถพื้นที่แล้วดึงหมุดเขตพื้นที่ของตนเองออก พร้อมทั้งมีการออกโฉนดทับพื้นที่โฉนดของตนเองจำนวนกว่า 1 ไร่เศษ ซึ่งพื้นที่ของตนเองตามโฉนดเมื่อปี 2540 มีเนื้อที่รวมจำนวน 24 ไร่ 3 งาน 57 ตะรางวาง แต่กลุ่มนายทุนที่มาบุกรุกมาออกโฉนดทับเมื่อปี 2550 หลายร้อยไร่
นายหั่น เล่าให้ฟังด้วยสีน่าที่เศร้าว่า ตนเองกับครอบครัวที่ผ่านมามีอาชีพเป็นชาวสวน โดยหลังจากมีการไถปรับที่ดินเข้ามาในพื้นที่ของตนเมื่อปี 2552 แล้วมีการปักเขตเข้ามาในที่ดินของตน พร้อมอ้างว่าเป็นพื้นที่สาธารณะ ซึ่งเองได้พยายามโต้แย้งด้วยหลักฐานโฉนด แต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากกลุ่มนายทุนร่วมกับข้าราชการบางหน่วยในพื้นที่ ได้ใช้ทุกวิถีทางเพื่อทำให้ตนเองถูกต้อง ที่ผ่านมาระยะเวลา 10 ปี ตนเองต้องทนลำบากที่จะต้องออกเดินทางเพื่อดำเนินเรื่องทางกฎหมาย ร้องเรียนไปตังแต่ระดับพื้นที่ อำเภอ จังหวัด แต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือตรวจสอบ จนต้องไปร้องที่ศาลภาค8จากนั้นเดินทางไปร้องที่ศาลปกครอง สำนักนายก ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรมที่ดินและถวายฏีกา
จนต่อมาสำนักปลัดนายกรัฐมนตรีทำเนียบรัฐบาล ได้มีหนังสือ ที่ นร 0105.01/41557 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2562 เรื่องให้ตรวจสอบการออกที่ดิน ตามเนื้อหาระบุว่าตามหนังสือที่อ้างถึง ทานได้มีหนังกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ขอให้ตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินเลขที่ 18523 ตำบลราชการกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง เนื่องจากท่านอ้างว่าโฉนดที่ดินดังกล่าว สำนักนายกได้ส่งเรื่องให้จังหวัดระนอง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบกรณีได้มีหนังสือดังกล่าว เพื่อพิจารณาโดยตรงแล้ว ต่อมาหนังสือลงเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 สำนักปลัดนายยกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือมาอีกครั้ง ที่ มท 0205.3/19691 โดยมีเนื้อหาคล้ายกัน
นายหั่น บอกต่อว่า ซึ่งต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่จากที่ดินเข้ามาดู แต่ไม่ได้ดำเนินการใด ๆในการรังวัด เพียงแต่บอกว่าทุกอย่างถูกต้องแล้วซึ่งตนเองก็ได้คัดค้านไปพร้อมให้ดูโฉนดทั้ง 2 ฉบับ ทั้งของตนเองและของกลุ่มนายทุน ที่รุกล้ำเข้ามาในที่ดิน ทำลายพืชผลอาสินที่ตนเองปลูกไว้จำนวนกว่า 1 ไร่เศษ จนถึงทุกวันนี้ตนเองพยายามต่อสู่เพื่อทวงสิทธิของตนเองคืนมา เพื่ออนาคตลูกหลายจะได้มีที่ทำกินเมื่อตนเองเสียชีวิตไป แต่ที่ผ่านมากลับไม่ได้รับความช่วยเหลือหรือความจริงจากภาครัฐในจังหวัดระนองที่มีหน้าที่แก้ไขตรวจสอบปัญหาดีโดยตรง เนื่องจากทราบว่าทั้งกลุ่มนายทุน กลุ่มข้าราชการในพื้นที่ซึ่งบุกรุกพื้นที่ของตนเองเป็นผู้กว้างขวาง รู้จักกับข้าราชเกือบทุกหน่วยในพื้นที่ โดยเฉพาะรู้จักกับผู้ที่มีหน้าที่ตรวจสอบเรื่องนี้ จึงไม่มีความคืบหน้าในการตรวจสอบความจริง แม้เวลาจะผ่านมา 10 ปีแล้ว
ตนเองจึงต้องมาร้องคำสื่อมวลชนให้ช่วยเป็นสื่อกลาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้เข้ามาตรวจสอบแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง เป็นธรรม ถูกต้อง เพราะตนเองก็อายุมากแล้ว ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานอีกสักเท่าไหร่ เป็นห่วงลูกหลานจะไม่มีที่ทำกิน เราชาวบ้านจน ๆไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้อีก จึงอยากวอนทางสื่อให้ช่วยบอกเรื่องราวไปถึงผู้ใหญ่ ผู้มีอำนาจทั้งในจังหวัดและผู้มีอำนาจระดับประเทศได้ช่วยตนเองกับครอบครัวให้ได้รับความเป็นธรรมด้วย//////
