ระนองตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ในสถานการณ์วิกฤติแก้ปัญหาข่าวบิดเบือน
ระนอง-ผวจ.เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สั่งจัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ในสถานการวิกฤติ เพื่อแก้ปัญหาการแชร์ข้อมูล ภาพที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง หรือการนำภาพเก่ามาแชร์ในสื่อโซเชียลส่งผลให้เกิดความวิตกและประชาชนได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน
นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ในวันนี้ 20 มิ.ย. 2561 ตนได้เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประชุมชี้แจงทำความเข้าใจการปฏิบัติด้านข้อมูลข่าวสารในช่วงที่จังหวัดเกิดพิบัติภัยเพื่อไม่ให้ข้อมูลที่สื่ออกไปคลาดเคลื่อนหรือผิดไปจากข้อเท็จจริง เนื่องจากบทเรียนจากเหตุพิบัติภัยที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 15-19 มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมาปรากฏว่าได้พบมีการนำข้อมูล และภาพเหตุการณ์น้ำท่วม ดินเลื่อนไหลที่ผิดไปจากข้อเท็จจริงอาทิการนำภาพเก่ามาประกอบในข้อมูลเมื่อเกิดการแชร์ออกไปมากๆก็ทำให้ดูน่ากลัว หรือการแชร์ข้อมูลที่ต่างชั่วเวลาที่เกิดเหตุ ในขณะที่สถานการณ์มีความคลี่คลายแล้วแต่ปรากฏว่ายังปรากฏข่าว ข้อมูลเหมือนว่ายังเกิดเหตุทำให้สร้างความสับสนแก่ผู้รับข้อมูลเป็นอย่างมาก
เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นเอกภาพและประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ทางจังหวัดจึงได้สั่งจัดตั้งศูนย์ประชาสัมพันธ์ในสภาวะวิกฤติขึ้นเพื่อทำหน้าที่หลักเพียงศูนย์เดียวที่จะรายงานสถานการณ์พิบัติภัยที่เกิดขึ้น โดยมีประชาสัมพันธ์จังหวัดระนอง เป็นผู้ดำเนินการสรุป และจัดส่งรายงานมายังผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อที่จะเป็นผู้รายงานหรือแถลงต่อสาธารณะชนต่อไป จึงแจ้งประชาชนว่าตั้งแต่นี้ต่อไปให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากศุนย์ประชาสัมพันธ์ในสภาวะวิกฤติแต่เพียงศูนย์เดียวเท่านั้นที่จะได้ข้อมูลที่ชัดเจนและถูกต้องที่สุด
ส่วนสถานการณ์ฝนตกหนักและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ จ.ระนอง ล่าสุดตนพร้อมนายสมกิจ เกศนาคินทร์ นายอำเภอกระบุรี,นายวิรสิงห์ คชสิงห์ นายก อบต.ปากจั่น อบจ.ระนอง ทหาร ตำรวจ กู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยังพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมฉับพลันเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรรวม 11หมู่บ้าน พื้นที่ตำบลปากจั่น อ.กระบุรี เดือดร้อนกว่า 200 หลังคาเรือน
ความเสียหายรวมถึงพืชผลทางการเกษตรจำนวนมาก จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ติดตามให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้กับประชาชนตำบลมะมุ พร้อมหาแนวทางแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไปซึ่งในขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลายแล้ว ภารกิจต่อไปคือการฟื้นฟู ช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยมอบหมายให้อำเภอและส่วนท้องถิ่นเร่งช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ ประชาชนช่วยเหลือตนเองได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: