หอการค้าระนองมอบเงินช่วยผู้ประสบภัยใน สปป.ลาว
ระนอง-วันที่ 31กรกฏาคม 2561 หอการค้าจังหวัดระนอง นำโดยนายธีระพล ชลิศราพงศ์ ประธานหอการค้า นายสุวัฒน์ หาญสุราษฎร์ รองประธาน นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง รองประธาน นายพรศักดิ์ แก้วถาวร เลขาธิการ นายไพรัตน์ กาฬสุวรรณ รองเลขาธิการ และนายสนชัย อุ่ยเต็กเค่ง กรรมการร่วมบริจาคเงินและเป็นตัวแทนนำเงินที่ได้รับบริจาคจากคณะกรรมการหอการค้า และองค์กรเอกชนต่างๆ มอบให้นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ซึ่งเป็นผู้รับมอบเงินบริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย แขวงอัตตะปือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ณ ศาลากลางจังหวัดระนอง
ที่ห้องโถงชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดระนอง นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง รับมอบเงินเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย แขวงอัตตะปือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) แตก จากหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐและองค์กรเอกชน รวม 184,490 บาทผู้ว่าราชการจังหวัดระนองกล่าวว่าจากเหตุการณ์เขื่อนแตกที่แขวงอัตตะปือ สปป.ลาว นั้นทางประชาชนจังหวัดระนองก็ได้ติดตามสถานการณ์และมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนชาวลาว จึงได้ร่วมกันบริจาคเงินสดผ่านทางจังหวัดร่วมกับทางภาคองค์กรเอกชนหลายองค์กรในวันนี้ก็มีการนำเงินมาบริจาคสมทบกันมอบให้กับทางผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ซึ่งในวันนี้ได้เงินทั้งสิ้นจำนวน 184,490 บาท โดยทางจังหวัดได้จัดทำบัญชีเงินรายรับและบัญชีสิ่งของเพื่อความโปร่งใสในทุกขั้นตอน เบื้องต้นทาง สนง.ปภ.ระนองจะออกใบเสร็จรับเงินให้ก่อน จากนั้นก็จะได้รวบรวมส่งสำนักรัฐมนตรีเพื่อทำการออกใบเสร็จรับเงินเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีต่อไป ซึ่งประชาชนหรือบริษัทเอกชนที่นำเงินสดมาบริจาคและต้องการที่จะให้ทางจังหวัดออกใบเสร็จให้ เพื่อที่จะได้นำไปลดหย่อนภาษีถ้าเป็นบุคคลธรรมดาก็ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนติดตัวมาด้วยหรือถ้าเป็นห้างหุ้นส่วนบริษัทก็ให้นำใบจดทะเบียนนิติบุคลหรือหนังสือรับรองจากกระทรวงพานิชย์ที่มีที่อยู่ชัดเจนมาด้วย เพื่อที่จะได้นำใบเสร็จไปทำการลดหย่อนภาษีฯ
สำหรับจังหวัดระนองได้ทำการเปิดรับบริจาคเงิน เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย สปป.ลาว ที่บริเวณห้องโถง ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดระนอง ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ ติดต่อสอบถามเพื่อทำการบริจาคสิ่งของ โทรศัพท์หมายเลข 077-800121และ 077-800126
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: