พลเอกประยุทธ์ นำคณะ ครม.ตรวจพื้นที่ ระนองก่อนประชุม ครม.สัญจร
ระนอง—พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ลงตรวจเยี่ยมพื้นที่ จ.ระนอง ก่อนประชุม ครม.สัญจร พร้อมหนุนพัฒนาท่าเรือ,ถนน 4 เลน และรถไฟชุมพร-ระนอง เชื่อมท่าเรือน้ำลึก รับยุทธศาสตร์การขนส่งสินค้าฝั่งอันดามัน ด้านระนองชงขอ ครม.สัญจร 3.5 พันล้านพัฒนาพื้นที่
20 ส.ค. 2561 พลเอกประยุทธ์ จัททร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยม จ.ระนอง ก่อนเดินทางต่อไปร่วมประชุม ครม.สัญจรที่จ.ชุมพร
พลเอกประยุทธ์กล่าวว่าเหตุที่เลือกจัด ครม.สัญจร ชุมพร-ระนองในครั้งนี้ เพราะเล็งเห็นว่า 2 จังหวัดนี้มีความสำคัญในคนละฝั่งทะเลคืออ่าวไทยและอันดามัน หากสามารถพัฒนาให้เชื่อมโยงระหว่างกันได้ จะส่งผลดีมหาศาลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะโครงข่ายด้านการขนส่งสินค้าที่จะลดเวลาการขนส่งลง โดยทางรัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนการพัฒนาท่าเรือระนองให้พร้อมในการรองรับการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การขนส่งในอนาคต ในขณะนี้ทางจังหวัดชุมพรก็ต้องมีการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกรองรับด้วยเช่นกันเพื่อเป็นจุดในการเชื่อมโยง นอกจากนี้ยังมีแผนการสร้างทางรถไฟเชื่อมจากชุมพรมายังท่าเรือน้ำลึกระนองเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายตู้สินค้าจากฝั่งอ่าวไทยมายังฝั่งอันดามัน ส่วนการสนับสนุนในการพัฒนาในด้านอื่นๆ อาทิการขยายสนามบินของทั้งสองจังหวัด การบริหารจัดการน้ำที่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น การส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะเส้นทางคมนาคมที่เน้นรองรับการขยายตัวด้านการขนส่ง และเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว
นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดระนอง ได้มีข้อเสนอที่จะของบประมาณเพื่อการพัฒนาจังหวัดประกอบด้วย 3 เรื่องสำคัญ คือโครงการก่อสร้างถนน 4 เลน จ.ต.ราชกรูด อ.เมืองระนองถึง อ.หลังสวน จ.ชุมพร เพื่อเป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจสำคัญเชื่อม ภาคใต้ตอนล่าง กับจังหวัดกลุ่มอันดามัน โดยคาดว่าใช้งบประมาณในการดำเนินการ 2,900 ล้านบาท โครงการโรงยิม 1,000 ที่นั่ง และ ศูนย์ฟื้นฟูและบำบัดนักกีฬาด้วยน้ำแร่ งบประมาณ 140 ล้านบาท โครงการที่สามการขออนุมัติก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเพิ่มเติมอีก 2 แห่ง เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยและสำรองไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง กำหนดก่อสร้างที่ บ้านน้ำจืด อ.กระบุรี และ บ้านทุ่งตาพล อ.ละอุ่น งบประมาณจุดละ 150 ล้านบาท
นอกจากนี้อีกประเด็นปัญหาที่สำคัญที่เป็นปัญหาคือเรื่องเอกสารสิทธิที่ดินย่านเศรษฐกิจการค้าของ จ.ระนองบริเวณสะพานปลา ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาเรื่องการบุกรุกป่า ทำให้ภาคเศรษฐกิจ การค้า อุตสาหกรรมไม่สามารถขยายหรือลงทุนเพิ่มเติมใดๆได้ ทำให้เสียโอกาส โดยทางจังหวัดขอให้รัฐบาลช่วยในการขอกันพื้นที่ป่า และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ถูกต้องตามกฏหมายต่อไป รวมถึงการหาแนวทางการพัฒนาบ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของ จ.ระนอง รวมถึงโครงการทางรถไฟเชื่อมจากชุมพรมายังท่าเรือระนองและการพัฒนาท่าเรือระนองส่วนขยายเพิ่มเติมทั้งขยายหน้าท่าเรือ การขุดลอกร่องน้ำเพื่อให้สามารถรองรับเรือสินค้าขนาดใหญ่ได้อนาคต
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: