มาเลเซียปิดประเทศ นักท่องเที่ยวทะลักด่านระนองขอข้ามต่อวีซ่าฝั่งพม่า ผวจ.สั่งคุมเข้ม
ระนอง-นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า ทางจังหวัดระนองเร่งออกมาชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้าน จ.ระนองที่เกิดความตื่นตระหนก และมีการสอบถามเป็นจำนวนมาก หลังพบปรากฏการณ์มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้ามาใน จ.ระนองอย่างผิดปกติในช่วงเวลาที่ไม่ปกติ ซึ่งตนจึงออกมาเร่งทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น รวมทั้งข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว
นายจตุพจน์กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้ามาในจังหวัดระนองในวันนี้ และคาดว่าจะเกิดขึ้นอีกหลายวันนับจากนี้เป็นเพราะผลจากที่ประเทศมาเลเซียปิดประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดภาคใต้ของไทย และเตรียมเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อท่องเที่ยวในมาเลเซียและประเทศอื่นๆต่อไป จึงต้องขอวีซ่าเพื่อยืดเวลาในการท่องเที่ยว แต่จากการที่มาเลเซียปิดประเทศจึงทำให้ไม่สามารถเข้าไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อต่อวีซ่าได้ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะจากยุโรปจำนวนมากที่วีซ่าใกล้หมดเวลา จึงได้เหมารถตู้ รถโดยสารเข้ามายังจังหวัดระนองเป็นจำนวนมากในวันนี้ เพื่อติดต่อด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.ระนองในการขอผ่านแดนข้ามไปยังฝั่ง จ.เกาะสองประเทศเมียนมา เพื่อประทับวีซ่ายืดอายุเวลาการท่องเที่ยว และคาดว่าจะมีเป็นจำนวนมากในวันต่อๆไปอีกหลายวันจนกว่าประเทศมาเลเซียจะเปิดประเทศอีกครั้ง
จังหวัดระนองในฐานะเมืองหน้าด่านแรกที่สำคัญทางภาคใต้ที่มีพรมแดนเชื่อมติดต่อกับเพื่อนบ้าน ที่นักท่องเที่ยวสามารถข้ามไปเพื่อต่อวีซ่าได้ จึงเป็นช่องทางเดียวในช่วงวิกฤตินี้ ซึ่งทางจังหวัดระนองไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ แต่ทางจังหวัดจะใช้มาตรการต่างๆ ในการตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวเหล่านี้อย่างเข้มงวดที่สุดเพื่อประชาชนชาว จ.ระนอง รวมทั้งตามมาตรการยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดน โดยในวันที่ 20 มีนาคม 2563 ทางจังหวัดระนองได้รับการสนับสนุนจากส่วนกลางในการนำเครื่องเทอร์โมสแกนขนาดใหญ่ เช่นเดียวกับที่สนามบินสุวรรณภูมิ มาติดตั้งที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.ระนอง เพื่อตรวจแสกนคัดกรองนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาติดต่อขอข้ามแดนทั้งขาออกและขาเข้ากลับมา โดยจะเน้นการตรวจคัดกรองอย่างเข้มข้นที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: