ระนอง สั่งสอดส่องพื้นที่เกาะกลางทะเลห้ามนำบุคคลภายนอกเข้ามาในชุมชน
วันนี้ (16 เม.ย. 63) นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู ผบก.ภ.จังหวัดระนอง, นาวาเอก ภริษวย์ วงษ์เพ็ญศรี ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเลไทย-พม่า (ศปชล.ทพ.), พ.อ.ธานี เกียรติสาร ผอ.ฉก.ร.25 พัน 2 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองระนอง ได้ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านชุมชนเกาะสินไห และเกาะตราครุฑ โดยมีคณะกรรมการหมู่บ้านและชาวบ้านเข้าร่วมรับฟังพร้อมให้การต้อนรับ
ข่าวน่าสนใจ:
- มุกดาหาร -เหิม! ขบวนการค้าของเถื่อนลักลอบส่งบุหรี่ไฟฟ้าข้ามแม่น้ำโขงใกล้กับสะพานมิตรภาพ 2
- กองบิน 5 แถลงข่าวการจัดงาน “สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484” รำลึกถึงความกล้าหาญ และความสามัคคีของวีรชนผู้กล้า ในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา
- กระบะซิ่งหนีสายตรวจ แหกโค้งพุ่งลงคูน้ำดับ ยกคัน 7 ศพ พบเป็นแรงงานต่างด้าว หลายราย
- เจ้าหน้าที่ตำรวจ-สาธารณสุขและฝ่ายปกครอง บุกพบหนุ่มป่วน.
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดระนองและ ผบก.ภ.จังหวัดระนอง ได้สร้างภาวะการรับรู้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนบ้านเกาะสินไหและเกาะตราครุฑเกี่ยวกับโรคติดต่ออันตรายหรือโรคไวรัสโควิด-19 รวมถึงแนวทางในการป้องกันตนเอง โดยการสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และทำความสะอาดล้างมือทุกครั้งหลังกลับจากธุระนอกบ้านหรือร่วมกิจกรรมในหมู่บ้านหรือชุมชน โดยเฉพาะบริเวณที่มีการสัมผัสบ่อยๆ เช่น มือ หรือล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ก้อน ซึ่งสบู่ก้อนจะมีความเป็นด่างมากกว่าสบู่เหลว
เพื่อเป็นการป้องกันตนเองและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด-19 ซึ่งพื้นที่เกาะสินไหและเกาะตราครุฑ จังหวัดระนอง ชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม มีอาชีพทำการประมง และเป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่คาดว่าน่าจะมีบุคคลในชุมชนลักลอบนำพาบุคคลภายนอกเข้ามาพักอาศัยในชุมชนหรือใช้เป็นทางผ่านไปยังพื้นที่ชั้นใน โดยทราบจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ผวจ.ระนองได้สั่งการห้ามไม่ให้ชาวบ้านในชุมชนนำพาบุคคลภายนอกหรือบุคคลแปลกหน้าที่ไม่รู้จักเข้ามาในชุมชนโดยเด็ดขาด หากสืบทราบว่ามีผู้ใดฝ่าฝืนจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ถือว่าบุคคลดังกล่าวฝ่าฝืนคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อร้ายแรง (โควิด- 19) จังหวัดระนอง รวมไปถึงหากบุคคลนั้นได้รับการรับรองสถานะความเป็นคนไทยพลัดถิ่นแล้วก็จะถูกยกเลิกการมีสถานะเป็นคนไทยด้วย เพื่อป้องกันบุคคลภายนอกอาจจะเป็นพาหนะนำเชื้อโรคโควิด-19 มาแพร่ระบาดในชุมชน พร้อมได้ฝากคนในชุมชนเกาะสินไหและเกาะตราครุฑทั้งหมด ช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย ดังนั้นทุกคนจะต้องช่วยกันพร้อมกับมีการสร้างวินัยทั้งในชุมชนและครอบครัวจึงจะฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: