เครือข่ายประชาคมงดเหล้า จ.ระนอง ยื่นหนังสือ ผวจ.จี้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัย จริยธรรม หน.อุทยานฯ หงาวกับพวก
ระนอง-ประธานเครือข่ายประชาคมงดเหล้าจังหวัดระนอง ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯระนอง ให้สอบวินัยผู้ฝ่าฝืนตั้งวงดื่มสุราละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นแบบอย่างไม่ละเว้น
.เมื่อวันที่ 29 เม.ย 2563 นายสุชีพ พัฒน์ทอง ประธานเครือข่ายประชาคมงดเหล้าจังหวัดระนอง ได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แต่งตั้งคณะกรรมการสอบจริยธรรมกับผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 จากเหตุการณ์ที่เมื่อคืนวันที่ 24 เม.ย. 2563 มีการตั้งวงดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว มีผู้กระทำผิดรวม 8 ราย สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และละเมิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับหน่วยงานอื่นต่อไป
นายสุชีพ พัฒน์ทอง เผยว่า “วันนี้ได้มายื่นหนังสือและให้กำลังใจผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคระดับจังหวัด และได้มอบช่อดอกไม้เพื่อให้กำลังใจ ทำงานหนักมาเพื่อให้ชาวระนองมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้เป็นเมืองหน้ากากแห่งความปลอดภัย และเพื่อให้กำลังใจพร้อมเร่งรัดให้ดำเนินการสอบวินัยและจริยธรรมผู้ละเมิดพรก.ฉุกเฉินและพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวที่ผ่านมาทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้รับมอบหนังสือและช่อดอกไม้ และได้รับเรื่องไว้เพื่อตรวจสอบต่อไป ”
เครือข่ายประชาคมงดเหล้าจังหวัดระนองมอบช่อดอกไม้และยืนหนังสือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองเพื่อให้กำลังใจพร้อมเร่งรัดให้ดำเนินการสอบวินัยและจริยธรรมผู้ละเมิดพรก.ฉุกเฉินและละเมิดพรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาวที่ผ่านมาทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้รับมอบหนังสือและช่อดอกไม้ และได้รับเรื่องไว้เพื่อตรวจสอบต่อไป
สำหรับเรื่องกล่าวล่าสุดเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2563 ศาลจังหวัดระนองพิพากษากรณีดังกล่าวว่าไม่ได้จงใจฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ปมถูกกล่าวหามั่วสุมกินดื่มต้อนรับนักวิชาการป่าไม้คนใหม่ เชิญ ขรก.สธ. มาร่วมวงด้วย ชี้เป็นการร่วมประชุมปรึกษางาน เหตุสำนึกในการกระทำผิด จะระวังในการประชุมสังสรรค์ไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้อีก รอกำหนดโทษ 1 ปี
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2563 ศาลจังหวัดระนอง พิพากษาคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดระยอง โจทก์ ยื่นฟ้อง 8 จำเลย ข้าราชการสังกัดกระทรวงแห่งหนึ่ง กรณีถูกกล่าวหาว่า มั่วสุมกินดื่มกันภายในบ้านพักอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จ.ระยอง มีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 4, 9, 18 และข้อกำหนดของนายกรัฐมนตรี ซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (ฉบับที่ 1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83 โดยมีของกลางเป็นเครื่องดื่ม 5 ขวด และน้ำแข็ง 1 กระติก
ข้อเท็จจริงกรณีนี้ จำเลยทั้ง 8 รายแถลงประกอบคำรับสารภาพ สรุปได้ว่า จำเลยทั้ง 8 ราย มิได้มีเจตนาที่จะทำการมั่วสุมเพื่อดื่มสุราในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค แต่เนื่องจากมีนักวิชาการป่าไม้ย้ายมารับราชการใหม่ที่ จ.ระนอง และได้เชิญนักวิชาการสาธารณสุข จ.ระนอง มาร่วมปรึกษาหารือการพัฒนาอุทยานแห่งชาติ ในระหว่างที่ปิดรับบริการนักท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาให้เป็นอุทยานแห่งชาติสีเขียว ประกอบกับอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว มีร้านสวัสดิการและบ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ ต้องจัดการเกี่ยวกับการสุขาภิบาล และอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว โดยมิได้มีการส่งเสียงรบกวนชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากภายในบริเวณดังกล่าวเป็นบ้านพักของอุทยานแห่งชาติมิใช่ในเขตชุมชน เพียงแต่นั่งรับประทานอาหารร่วมกัน และพูดคุยกันเท่านั้น โดยไม่มีเจตนาฝ่าฝืนคำสั่งของหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวกับความมั่นคง ทั้งนี้จำเลยทั้ง 8 รายรู้สึกสำนึกในการกระทำของตน ขอศาลได้โปรดลงโทษจำเลยทั้งหมดในสถานเบา
โดยศาลจังหวัดระนองเห็นว่า จำเลยที่เป็นข้าราชการทั้ง 8 รายกระทำความผิดตามฟ้อง แต่พิเคราะห์คำฟ้องและคำแถลงประกอบคำรับสารภาพของจำเลยเห็นว่า จำเลยทั้ง 8 ราย เป็นข้าราชการและได้ร่วมประชุมปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับงานราชการ รวมถึงมีการเชิญนักวิชาการสาธารณสุขมาร่วมปรึกษาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 แต่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ในการประชุมกันจะต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม กรณีดังกล่าวเห็นว่า จำเลยทั้ง 8 ราย ไม่จงใจที่จะฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ประกอบกับจำเลยทั้ง 8 ราย สำนึกในการกระทำความผิดดังกล่าวแล้ว และจะระมัดระวังในการจัดการประชุมสังสรรค์ร่วมรับประทานอาหารกัน ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวอีก จึงเห็นควรรอกำหนดโทษให้แก่จำเลยทั้ง 8 ราย ไว้มีกำหนด 1 ปี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: