ลือ! อาถรรพ์ เผาวอดเมรุวัดหลวงระนอง คนตายรอเผาอื้อ เตรียมขน “เมรุ” สำรองรองรับ
ระนอง-เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2563 วัดสุวรรณคีรีวิหารพระอารามหลวง จ.ระนอง หรือวัดหน้าเมือง ได้ออกข้อความแจ้งที่เฟซบุ๊คของวัดชื่อวัดสุวรรณคีรีวิหาร-ระนอง ชี้แจงเรื่องความคืบห้าในการดำเนินการซ่อมแซมเมรุ ที่เผาศพของวัดที่ถูกไฟไหม้จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ไม่สามารถที่จะใช้งานได้ ทำให้มีศพที่รอคิวเผาหลายราย
ข่าวน่าสนใจ:
“ขณะนี้ทางวัดได้ดำเนินการซ่อมเมรุ ที่ชำรุดเพราะเหตุเพลิงไหม้แล้ว (ไฟไหม้ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2563)โดยจะทำการเปลี่ยนเตาใหม่เป็นระบบสองเตา และปรับปรุงอาคารเมรุงบประมาณในการเปลี่ยนเตาเผา 3,000,000 บาท และบูรณปฏิสังขรณ์อาคารเมรุ 2,000,000 บาทรวมทั้งสิ้น 5,000,000 บาทโดยใช้ระยะเวลาดำเนินการ 90 วันซึ่งทางวัดจะจัดทอดผ้าป่า เพื่อหางบประมาณในการครั้งนี้
โดยจะจัดพิธีทอดผ้าป่า ในวันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม 2563 รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหรือสามารถโอนเงินบริจาคผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทยเลขที่บัญชี 806 – 0 – 50399 – 5 ชื่อบัญชี รับเงินบริจาคผ่าน QR CODE วัดสุวรรณคีรีวิหาร ทางวัดจะนำเตาเผาศพสำรอง มาติดตั้ง ในวันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2563 เพื่อใช้งานในระหว่างซ่อมแซมเตาและเมรุใหม่จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วถึงกัน วัดสุวรรณคีรีวิหาร-ระนอง
เหตุการณ์ไฟไหม้เมรุวัดสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง จ.ระนอง เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.10 น. วันที่ 6 มิถุนายน 2563 ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ อาจาติ รอง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองระนอง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ เมรุวัดสุวรรณคีรีวิหาร หรือวัดหน้าเมือง ต.เขานิเวศน์ อ.เมืองระนอง จ.ระนอง จึงรีบประสานงานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ และหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองระนอง เร่งรุดเข้าที่เกิดเหตุในที่เกิดเหตุ พบเมรุเผาศพภายในวัดสุวรรณคีรีวิหาร
มีกลุ่มไฟและกลุ่มควัน ติดออกจากด้านข้างซ้ายของเตาเผาศพ และที่ปล่องควันเตาเผาศพก็ยังมีกลุ่มจำนวนมากลอยฟุ้งดำอยู่ในอากาศด้านบน เพราะภายในเตายังมีการฌาปนกิจศพอยู่ด้วย โดย พระ,เณร,สัปเหร่อ,และตำรวจสายตรวจ รถจักรยานยนต์ สภ.เมืองระนอง ต่างวิ่งกันนำน้ำใส่ถัง ขึ้นมาสาดใส่กองเพลิง ที่ไฟลุกลามออกจากเตา มาติดกองวัสดุเอกสาร และข้าวของเครื่องใช้ของสัปเหร่อที่เก็บอยู่ด้านข้างเตาเผาศพ จนสามารถดับไฟไม่ให้ลุกลาม ท่ามกลางสายฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
ต่อมา จนท.หน่วยกู้ภัยและหน่วยดับเพลิง ได้นำรถน้ำดับเพลิง จำนวน 2 คัน เข้ามาถึงที่เกิดเหตุ โดยพระเณรออกมายืนรอดูสถานการณ์อยู่ภายในเต็นท์ด้านข้างเมรุ จากการตรวจสอบของ เจ้าหน้าที่พบว่า เตาเผายังมีการเผาศพอยู่เป็นศพที่ 2 ซึ่งศพแรกได้เผาและเก็บอัฐิเป็นที่เรียบร้อย ส่วนศพที่สองก็ได้ดำเนินการเผาอยู่เกือบเสร็จสิ้นแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเตาเผาได้ เนื่องจากระบบสายไฟฟ้าของเตาเผาเสียหาย ส่วนอัฐิที่เผาอยู่ สามารถคลานเข้าไปเก็บออกมาได้ในเช้าวันพรุ่งนี้จากการสอบสวนปากคำเบื้องต้น นายนิยม บุญเซ็ก อายุ 65 ปี กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ดำเนินการ ฌาปนกิจศพ เป็นรายที่ 2 เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก่อนจะเดินทางกลับไปบ้านพัก และได้รับแจ้งจากพระภายในวัดว่า เกิดเพลิงไหม้เมรุเผาศพ ตนจึงเร่งมาที่วัดอย่างเร่งด่วน ส่วนสาเหตุคาดว่า น่าจะเกิดความร้อนจากเตาเผา ไปเผาไหม้สายไฟฟ้าของระบบเตาเผา จนหลอมละลายและเกิดเป็นเพลิงลุกไหม้ที่ด้านข้างเตาเผา ความร้อนภายในเตามันละอุ ที่ควันขึ้นมาจำนวนมากมันขึ้นมาจากปล่องควันเฉยๆ ไม่ได้ลุกลามไปไหน เมื่อพระโทรมาบอกไฟไหม้เมรุ ผมว่า เฮ้ย..มันจะไหม้ได้ยังงัย ผมยังว่าเลย โดยกลุ่มไฟและกลุ่มควันที่เกิดขึ้น น่าจะมาจากการลุกไหม้จากสีตามผนังปูนเตาเผาด้านนอก มีทั้งพานและเอกสารต่างๆ ทั้งหมดที่มีอยู่ที่ผมวางไว้ด้านนอกเป็นเชื้อเพลิงเผาไหม้
ส่วนระบบไฟฟ้าของเตาเผาศพน่าจะเสียหายทั้งหมด ส่วนคิวการฌาปนกิจศพอื่นๆ ก็จะให้ย้ายไปเผาที่วัดข้างเคียงก่อน กว่าช่างซ่อมเตาจะมาดำเนินการซ่อมแซมคาดว่าน่าจะใช้เวลาร่วม 1-2 เดือน เพราะเตาเผาศพเริ่มเก่าและชำรุด ทั้งระยะนี้มีการเผาศพต่อเนื่องทุกวัน วันละ 2 ศพ เป็นเวลาติดต่อมานานร่วมสัปดาห์
ส่วนเรื่องดังกล่าว หลายคนบอกว่าเป็นความเฮี้ยน เป็นอาถรรพ์ต่างๆ ก็ต้องเคารพความคิดเห็นของแต่ละคน และขอให้ผู้รับฟังใช้วิจารณญาณ ใช้สติปัญญา ขบคิด ในการฟังก่อนการตัดสินใจ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: