แม่ทหารระนองถูกลอบวางระเบิดดับวอน จนท.เร่งจับคนร้าย
ระนอง—มารดา ส.อ.สุพัฒน์ธนชัย มากประสิทธิ์ อายุ 36 ปี ทหารชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย มทบ.44 ที่ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดใต้เก๋งส่วนตัวจนระเบิดเสียชีวิตขณะจะเคลื่อนรถออกไปทำธุระส่วนตัว เหตุเกิด ภายในบริเวณบ้านพักกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415 น้ำตาคลอ วอน จนท.เร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ‘ส.อ.’สตาร์ทเก๋งบึ้มสนั่นที่ข้างบ้านพักในค่าย ตชด.ระนอง
วันที่ 6 ต.ค. 61 ผู้สื่อข่ารายงานความคืบหน้ากรณี ‘ส.อ.’สตาร์ทเก๋งบึ้มสนั่นที่ข้างบ้านพักในค่าย ตชด.ระนอง จากกรณีเหตุระเบิดรถเก๋งโตโยต้า โซลูน่า สีน้ำเงิน ทะเบียนบง 9413 นราธิวาส บึ้มฉีกร่าง ส.อ.สุพัฒน์ธนชัย มากประสิทธิ์ อายุ 36 ปี ทหารชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย มทบ.44 จนเสียชีวิตภายในบริเวณบ้านพักกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415 บ้านบางนอน หมู่ 1 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง เบื้องต้นชุดอีโอดีเข้าตรวจสอบแต่ยังไม่ลงความเห็นว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องหรือระเบิดมือ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.พรชัย อินทนู ผบ.มทบ.44 และพ.อ. ธานี เกียรติสาร รอง ผบ.ฉก.ร.25 ผบ.กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415 พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน, เจ้าหน้าที่ชุดEOD เร่งตรวจสอบพื้นที่จุดที่เกิดเหตุก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปตรวจสอบตามกระบวนการหลักทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นคราบลายนิ้วมือแฝงและเศษซากชิ้นส่วนของวัตถุระเบิดพร้อมวัตถุพยานแวดล้อมอื่นๆเพื่อเร่งสรุปแนวทางในการสืบสวนสอบสวน เบื้องต้นชุดอีโอดีพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบแล้วแต่ยังไม่ลงความเห็นว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องหรือระเบิดมือ
ที่ห้องดับจิต รพ.ระนอง นางสมจิตร มากประสิทธิ์ อายุ 72 ปี ได้เดินทางมาจาก จ.ชุมพร เพื่อทำเรื่องติดต่อขอรับศพ ส.อ.สุพัฒน์ธนชัย ลูกชายสุดที่รักด้วยความโศกเศร้า ซึ่งก่อนจะเสียชีวิต นางสมจิตร ผู้เป็นแม่เล่าว่า ก่อนหน้านี้เพียง 3 วัน ส.อ.สุพัฒน์ธนชัย ได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่ อ.ประทิว จ.ชุมพร มีเพื่อนบ้านทักสีหน้าหมองเศร้า คล้ายคนกำลังมีเคราะห์ พออยู่บ้านได้เพียงไม่กี่วัน จู่ๆ ลูกชายก็บอกว่าครอบครัวว่าจะต้องรีบเดินทางกลับเนื่องจาก “นายโทรมาตามว่ามีงานด่วน” โดยแม่เห็นเองกับตา ลูกชายพยายามเร่งรีบสตาร์ทรถยนต์คันที่เกิดเหตุ แต่สตาร์ทเท่าไหร่ก็ไม่ยอมติดสักที จนเวลาผ่านไปนานกว่าครึ่งชั่วโมง ยังไม่สามารถเดินทางออกจากบ้านได้สำเร็จ ต้องรีบโทรตามช่างให้มาซ่อม เพื่อเดินทางกลับค่ายทหารที่ จ.ระนอง สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น แม่ไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือเป็นอุบัติเหตุ แต่คิดว่ามีคนทำให้ลูกชายตาย และส่วนตัวเชื่อเวรกรรมมีจริง ไม่ช้าจะส่งผลให้แก่ผู้กระทำกับลูกชายตนแน่นอน จึงอยากร้องขอ จนท.เร่งติดตามเรื่องนี้ให้กระจ่างโดยเร็ว และติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ชุดอีโอดียังไม่ขอสรุปผลการตรวจสอบใดๆ //////ปล.เหตุที่ภาพ/ข่าว—เหตุล่าช้า—เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปทำข่าวภายในกองร้อยตชด.ที่415 ——-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ข่าวน่าสนใจ:
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: