ระนอง การ์ดเริ่มตก สสจ.ระนอง ห่วงจี้ตลาดสด ร้านอาหาร เร่งปรับปรุง
ระนอง-จังหวัดระนอง รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ณ วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระนอง ส่งตัวอย่างตรวจเพื่อหาเชื้อไวรัสโควิด–19 จำนวน 697 ราย ไม่พบเชื้อ 697 ราย โดยเป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคและสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยยืนยัน 78 ราย มาจากการค้นหาในชุมชน 154 ราย ตรวจในผู้เดินทางกลับจากประเทศเขตโรคติดต่ออันตราย 35 ราย ผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดอื่น 30 ราย และตรวจในกลุ่มเสี่ยงเฝ้าระวังเชิงรุก 400 ราย และผู้ป่วยรายที่ 78 ผลการตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19
ข่าวน่าสนใจ:
นายสาธิต ทิมขำ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง เปิดเผยถึง ผลการประเมินของประชาชนที่เข้ารับบริการในกิจการ/กิจกรรม ที่ได้รับการผ่อนคลาย ใน 5 กิจกรรม โดยสำรวจการปฏิบัติตามมาตรการหลักของ ศบค. ใน 5 ด้าน คือ การทำความสะอาดจุดสัมผัสบ่อย สวมหน้ากากทุกคน มีจุดบริการล้างมือ/เจลแอลกอฮอล์ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และการลดความแออัด พบว่า ได้รับความร่วมมือและมีการปฏิบัติตามมาตรการหลักในระดับดี แต่ยังพบว่า บางกิจการมีคะแนนแต่ละด้านลดลง
ควรเน้นย้ำให้ปรับปรุง โดยเฉพาะตลาด ที่สำรวจ 126 แห่งทั่วประเทศ มีจุดบริการล้างมือเจลแอลกอฮอล์มากถึงร้อยละ 91 แต่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น ลดความแออัดได้เพียงร้อยละ 56 การสวมหน้ากาก การทำความสะอาด การเว้นระยะห่าง อยู่ที่ประมาณร้อยละ 70 ขอความร่วมมือผู้ให้บริการควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการ
กำหนดทางเข้าออก แบ่งโซลสินค้าให้ชัดเจน ชัดเจน ผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า ผู้สัมผัสอาหารและผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากผ้าหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าตลอดเวลา ทำความสะอาดบริเวณที่ให้บริการตามหลักสุขาภิบาล เช่น พื้นตลาด แผงจำหน่ายอาหาร รวมถึงจัดพื้นที่ให้มีการเว้นระยะห่าง ระหว่างแผงค้า ผู้ซื้อ และการชำระเงินอย่างน้อย 1-2 เมตร
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระนอง กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนร้านอาหาร/เครื่องดื่ม จำนวน164 แห่ง ควรเพิ่มการทำความสะอาดจุดสัมผัส พนักงานควรสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา เว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะอย่างน้อย 1 เมตร และควบคุมทางเข้าออก และดูแลให้ผู้ใช้บริการลงทะเบียนเข้า-ออกผ่านแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ”และขนส่งสาธารณะ 141 แห่ง พบว่า มีการทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสร่วมเพียงร้อยละ 82 การสวมหน้ากากทุกคนร้อยละ 89 การเว้นระยะร้อยละ 90
จึงต้องเน้นย้ำการทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสบ่อย ทั้งสถานีขนส่งและยานพาหนะ รวมถึงกำชับให้พนักงานและผู้โดยสารทุกคนเว้นระยะห่างและสวมหน้ากากตลอดเวลา แม้สถานการณ์ที่ดีขึ้นทำให้เราเริ่มกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ ยังคงต้องขอความร่วมมือประชาชนดำเนินชีวิตตามวิถีใหม่ ไม่ประมาท ปฏิบัติตามมาตรการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ต่อตัวท่านเอง สิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือของผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการ หากทุกคนร่วมมือกันจะช่วยให้ประเทศไทยปลอดภัยและปลอดโรค หากมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ หมายเลขโทรศัพท์ 098-0132100
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: