ระนองสุดอ่วม ซินลากู ถล่มยับ ชุมชนประมงพื้นบ้านจมทะเล หลังคาปลิวว่อนกว่า 1,000 ครัวเรือน
ระนอง-นายบรรลือ แซ่ตัน นายกเทศมนตรีตำบลปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ในวันนี้ 2 ส.ค. 2563 ได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงในเขตพื้นที่ ต.ปากน้ำ และหลายพื้นที่ใน จ.ระนองนานกว่า 1 ชม.ส่งผลให้เกิดความเสียหายจากพายุฝนฟ้าคะนองที่เกิดลมกระโชกแรงพัดอาคารบ้านเรือน หลังคาบ้านเรือนได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยในส่วนของ ต.ปากน้ำ ซึ่งเป็นชุมชนด่านแรกที่อยู่ติดกับทะเลอันดามัน โดยเฉพาะหมู่บ้านเกาะคณฑีที่เป็นชุมชนหมู่บ้านเกาะกลางน้ำ
ข่าวน่าสนใจ:
- กาญจนบุรี พิธีตักบาตรพระ 10,000 รูป ฉลองตั้งเมือง 193 ปี พร้อมอุทิศส่วนกุศลแด่บรรพบุรุษผู้มีพระคุณต่อประเทศชาติ
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
- ปป.แม่สายทานมูมมามจนลืมตัว เรียกเก็บเงินแบบไม่อาย แต่ต่อรองราคาได้
- บุรีรัมย์ เตือนวัยรุ่นอย่าทำ ขับรถหวาดเสียว ยกล้อโชว์ จับส่งศาล ศาลพิพากษาสั่งปรับและจำคุก
ได้รับความเสียทั้งชุมชนบ้านเรือนกว่า 30 หลังคาเรือนถูกกระแสลมพัดพังเสียหาย ซึ่งทันทีหลังจากทราบเหตุ ตนได้สั่งระดม จนท.อุปกรณ์ ออกไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบเหตุพิบัติภัยในเบื้องต้น ทั้งการเคลื่อนย้ายเด็ก คนแก่ คนชรา ผู้เจ็บป่วย การเก็บเคลื่อนย้ายสิ่งของ ซึ่งพบว่าบ้านเรือนส่วนใหญ่หังคาได้รับความเสียถูกกระแสลดพัดหาย ในตัวบ้านทรัพย์สินเสียหายจากน้ำฝนที่ตกลงมา ส่งผลที่นอน เสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ส่วนบนฝั่งพบว่าบริเวณแพปลาหลายจุดได้รับผลกระทบจากลงแรงด้วยเช่นกัน และทราบว่านายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง จะเดินทางมาตรวจดูสภาพที่เกิดเหตุ และเยี่ยมเยียนให้กำลังใจชาวบ้านที่ประสบภัยในครั้งนี้ด้วย
สำนักงานบรรเทาและสาธารณภัยจังหวัดระนอง แจ้งว่าเหตุฝนตกหนักลมกระโชกแรงจากอิทธิพลของพายุ ซินลากู ได้ส่งผลกระทบและความเสียหายต่อพื้นที่ จ.ระนองในวงกว้างในทุกอำเภอ โดยพื้นที่ประสบภัยที่หนักเป็นในส่วนของ อ.เมืองระนอง และ อ.สุขสำราญ โดยเฉพาะที่ อ.สุขสำราญ บริเวณชุมชนประมงชายฝั่งบริเวณท่าเรือหัวท่าบ้านบางกล้วย ประสบพิบัติภัยจากลมกระโชกแรงพัดอาคารบ้านเรือนชาวบ้านพังเสียหายทั้งหลัง บางหลังจมลงในทะเล ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งลงพื้นที่เพื่อหาทางช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยพิบัติภัยอย่างเร่งด่วนแล้ว
นายไพบูลย์ เอี่ยมสุวรรณ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาระนอง กล่าวว่าประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้
ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุโซนร้อน ซินลากูบริเวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรง
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2563
อนึ่ง พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู)บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 160 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม ในเช้าวันนี้ ( 2 ส.ค. 63 ) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน เคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศลาวในระยะต่อไป และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ
เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (2 ส.ค. 63) พายุระดับ 3 โซนร้อน ซินลากู) บริเวณอ่าวตังเกี๋ย มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 1 กิโลเมตร ทางด้านตะวันออกของเมืองวินห์ ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 19.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 106.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาคว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งที่เมืองวินห์ ประเทศเวียดนามในวันนี้ ( 2 ส.ค. 63 ) หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน เคลื่อนข้าปกคลุมประเทศลาว และจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ
อนึ่ง ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเข้าสู่พายุระดับ 3 (โซนร้อน ซินลากู) บริวณอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้
พื้นที่ที่คาดว่าจะได้ผลกระทบมีดังนี้2 สิงหาคม 2563 ภาคใต้ : ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช 3 – 4 สิงหาคม 2563ภาคใต้ : ระนอง พังงา ภูเก็ต เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตรส่วนอ่าวไทยคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2563
สำหรับพายุระดับ 3 โซนร้อน (ฮากูปิต) บริเวณด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน คาคว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเกาะไต้หวันและเมืองเซียงไฮ้ ประเทศจีนในช่วงวันที่ 3 – 4 ส.ค. 63 ซึ่งพายุระดับ 3 โซนร้อน (ฮากูปิต) นี้ไม่มีผลกระทบต่อประเหศไทยจึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรม อุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดระนองด้านสำนักงานการไฟฟ้าแจ้งข้อมูลไฟฟ้าดับบริเวณกว้าง จากเหตุฝนตกหนักลมกระโชกแรง เบื้องต้นพบสายแรงสูงขาดบริเวณ ดาราณีรีสอร์ท ทำให้มีไฟดับบริเวณกว้างตั้งแต่ถนนเพชรเกษมหน้าภูธารารีสอร์ท-ซอยบ่อนไก่นายัง ม.พรเทพ ม.สุทธาวรรณ จนถึงแยกเขาพริกไทย ปัจจุบันช่างกำลังดำเนินการต่อสายแรงสูง คาดว่าจะสามารถจ่ายไฟได้ตามปกติเวลาประมาณ 20.30 น จึงแจ้งขออภัยในความไม่สะดวก แผนกปฏิบัติการและบำรุงรักษาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดระนองด้านสำนักงานการไฟฟ้าแจ้งข้อมูลไฟฟ้าดับบริเวณกว้างพื้นที่เพิ่มเติมเนื่องจากมีฝนตกและลมแรงในบริเวณจังหวัดระนอง ทำให้มีไฟดับในหลายพื้นที่ดังนี้ 1.ต้นไม้ล้มทับสายแรงสูงบริเวณปากทางเข้าบ่อน้ำร้อนรักษวาริณ 2.ต้นไม้ล้มทับสาย ในซอยพรุตาโรย อ.ละอุ่น 3.เสาแรงสูงล้ม 4ต้น ในซอยบ้านเขาพัง อ.กะเปอร์ปัจจุบันช่างกำลังเข้าตรวจสอบและแก้ไขให้กลับมาจ่ายไฟได้ตามปกติ ขออภัยในความไม่สะดวก
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดระนอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: